ภูมิทัศน์การเมืองไทย 2023: ผู้แทน ขุนศึก ศักดินา ทุนผูกขาด และชนชั้นเสี่ยง

นักวิเคราะห์หลายคนให้ความเห็นตรงกันว่าปี 2023 นี้ จะเป็นปีแห่งโอกาสของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปสู่ประชาธิปไตย มีเหตุผลอยู่ 2-3 ประการที่ทำให้ข้อคิดเห็นนี้มีน้ำหนักน่ารับฟัง ประการแรก จะมีการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งหากไม่มีการยุบสภาก่อนหน้านั้นคาดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น ไม่เกินวันที่ 7 พ.ค. 2566 หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 จะหมดวาระลงในวันที่ 24 มีนาคม 2566  ประการที่สอง กระแสเสื่อมถอยของรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจากคณะรัฐประหาร คสช. จากการสำรวจความนิยมหรือโพลหลายสำนักในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 พบว่าคะแนนความนิยมของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลดลงไปอย่างมาก พ้องไปกับปรากฏการณ์ของการแตกขั้วไปสู่พรรคการเมืองต่างๆ ของฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาล ประการสุดท้าย ปมปัญหาทางเศรษฐกิจจะส่งผลอย่างไรต่อปรากฏการณ์ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 อันนี้เป็นเรื่องที่ควรขบคิดกัน ปัจจัยหลายประการอาจเป็นตัวชี้ขาดสถานการณ์การเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้น รายงานชิ้นนี้ ชวนพิจารณาการเมืองในภาพกว้างที่มากไปกว่าผลแพ้หรือชัยชนะทางการเมือง หากแต่เป็นการทบทวนภูมิทัศน์การเมืองไทยว่า สถานการณ์ปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างไร ตัวแสดงทางการเมืองไหนส่งผลต่ออนาคตอันใกล้ของเรา การเมืองของการเลือกตั้ง แม้ว่าสังคมไทยจะคุ้นชินกับวิธีการขึ้นสู่อำนาจผ่านการเลือกตั้ง โดยสถาบันรัฐสภาตั้งหลักมั่นคงนับตั้งแต่ทศวรรษ 2520 เป็นต้นมา จำนวนการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ในฐานะที่เป็นกิจกรรมทางการเมืองที่รัฐไทยอนุญาตให้เกิดขึ้นอย่างถูกกฎหมาย มีบางช่วงตอนเท่านั้นที่หยุดชะงัก เช่น การรัฐประหารและบทบาทของกองทัพในทางการเมืองไทยในปี 2535, 2549 และ 2557 ซึ่งครั้งหลังสุดนับเป็นครองอำนาจยาวนานที่สุดของระบอบเผด็จการทหารในรอบ