เรื่องเล่าจากอิสลามคนหนึ่งที่ถูกมองว่าเติบโตมาอย่างผิดแปลก

สัมภาษณ์มุสลิมคนหนึ่ง โดยถูกขอให้ใช้คำว่า เรื่องเล่าจากอิสลามคนหนึ่งที่ถูกมองว่าเติบโตมาอย่างผิดแปลก และย้ำว่า ไม่ใช่คนที่มีทฤษฎีวิชาการทางศาสนา เพียงพูดในมุมมองของปัจเจก-เราคิดว่าคำคำนี้หมายถึงความเป็นมนุษย์ “เกิดมาในครอบครัวที่เป็นอิสลาม เอกสารราชการระบุว่านับถือศาสนาอิสลาม แต่เราเองคงไม่อาจกล่าวได้ว่าตนเป็นมุสลิมที่ดีหรือถูกต้อง จากประเด็นถกเถียงก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์กันไปมากมาย เรื่องนี้เป็นเรื่องปัจเจกล้วนๆ แต่เมื่อมีการขยายความกันออกไปกลับมีผู้คนที่บอกนับถือศาสนาอิสลามแบบเราเข้ามาพิพากษาเราอย่างใจดำ “บางคนบอกให้ออกจากศาสนาก็มี สำหรับเราแล้วนี่คือที่มาของการหล่อหลอมให้เราเป็นเรา นอกจากการเป็นอิสลาม เรายังอยากเป็นมนุษย์ที่มีหัวจิตหัวใจด้วยเช่นกัน ยอมรับว่าบางทีก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมสังคมมุสลิมเราต้องอยู่กันด้วยความเกรงกลัวคนมุสลิมกันเองขนาดนี้ ทำไมถึงผลักคนที่มีความเห็นต่างออกมาขนาดนี้ “ครอบครัวอิสลามหัวก้าวหน้ามีมากไหม” เราถาม มุสลิมคนหนึ่งตอบว่าไม่อาจระบุได้ ไม่รู้จริงๆ “แต่ดูจากปริมาณคนที่มาคอมเมนต์หรือทัก inbox มาบอกว่า เราเข้าใจคุณมากๆ นะ เขา relate กับมุมมองของเรา หรือโตมาแบบคล้ายๆ กัน “ก็พอตอบได้ว่ามีคนที่เติบโตมาด้วยประสบการณ์คล้ายๆ กันอยู่ สำหรับเราไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่พวกเขาอาจตกใจที่เราพูดหรือกลัวแทนเราด้วยซ้ำ และขอบคุณมิตรภาพของมุสลิมอีกหลายคนที่โอบรับเราไว้ ต่อคำถามคุณเติบโตมาอย่างไร นี่คือคำตอบ “เราโตมาในครอบครัวค่อนข้างเปิดกว้างนะ มีอิสระทางความคิด ทุกเย็นบนโต๊ะอาหารที่บ้านคือพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องทางสังคม การเมือง ถ้าถามว่าความก้าวหน้าเกิดขึ้นเมื่อไร และเกิดขึ้นได้อย่างไรคำตอบคือ มื้อเย็นในครอบครัว ที่จริงก็ไม่อยากใช้คำว่าก้าวหน้าหรืออะไรแบบนั้นนะ “เพราะมันควรเป็นความปกติมากกว่าในการเปิดโอกาสให้ได้สงสัย ตั้งคำถาม และแลกเปลี่ยนความเห็น เราเชื่อว่าในยุคที่ศิลปวิทยากรและวิทยาศาสตร์ในโลกมุสลิมที่เคยรุดหน้ามากที่สุด ซึ่งหลายอย่างเป็นพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ทุกวันนี้ก็มาจากการสงสัยและตั้งคำถาม “เราถูกสอนเสมอว่าสังคมต้องเดินไปข้างหน้า เราเองต้องยอมรับพัฒนาการและปรับตัว

ก้าวหน้าและล้าหลังหลากหลายทางเพศในต่างแดน

– 1 – เดือดมาตั้งแต่รู้ว่าสถานที่จัดฟุตบอลโลก ฟีฟ่าเวิลด์คัพ 2022 คือประเทศกาตาร์ หนึ่งในประเทศที่ติดโผปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงเหตุการณ์การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ในเดือนตุลาคม 2022 ฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) มีรายงานว่า กองกำลังความมั่นคงในกาตาร์ได้จับกุมและข่มเหงกลุ่ม LGBTQ+ ชาวกาตาร์โดยพลการ เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนเริ่มเวิลด์คัพ  ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้สัมภาษณ์กลุ่ม LGBTQ+ ชาวกาตาร์ 6 คน มีทั้งหญิงข้ามเพศ 4 คน ไบเซ็กชวล 1 คน และเกย์ 1 คน ที่มีรายงานว่าถูกควบคุมตัวระหว่างปี 2019-2022 พวกเขาบอกว่า ไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ โดยเป็นการควบคุมตัวในเรือนจำใต้ดินในกรุงโดฮา ถูกล่วงละเมิดทั้งทางวาจาและร่างกาย รวมทั้งเตะและต่อย หนึ่งในนั้นบอกว่า เขาถูกขังเดี่ยวนาน 2 เดือน และทั้ง 6 คนบอกว่า ตำรวจบังคับให้พวกเขาลงชื่อในสัญญาระบุว่าจะ ‘ยุติกิจกรรมที่ผิดศีลธรรม’ แม้ว่าทางการกาตาร์จะอ้างว่า ยินดีต้อนรับแฟนๆ ชาว LGBTQ+ แต่ก็มีโรงแรมปฏิเสธการบริการคู่รักเพศทางเลือก

สมรสเท่าเทียมบนเส้นด้าย “การที่สมรสเท่าเทียมผ่านพร้อมกับ พ.ร.บ. คู่ชีวิตอีก 3 ร่าง ก็เป็นเรื่องที่เราต้องจับตาติดตามการทำงานตามกระบวนการนี้ต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญไม่น้อยกว่าการต่อสู้ในสภาฯ คือการสร้างความเข้าใจทางสังคม แม้ว่าในตอนนี้จะมีแรงสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังต้องทำงานในการสื่อสารต่อไปค่ะ” ดร.อันธิฌา แสงชัย เราสัมภาษณ์มุสลิมคนหนึ่ง โดยถูกขอให้ใช้คำว่า เรื่องเล่าจากอิสลามคนหนึ่งที่ถูกมองว่าเติบโตมาอย่างผิดแปลก และย้ำว่า ไม่ใช่คนที่มีทฤษฎีวิชาการทางศาสนา เพียงพูดในมุมมองของปัจเจก “เกิดมาในครอบครัวที่เป็นอิสลาม เอกสารราชการระบุว่านับถือศาสนาอิสลาม แต่เราเองคงไม่อาจกล่าวได้ว่าตนเป็นมุสลิมที่ดีหรือถูกต้อง จากประเด็นถกเถียงก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์กันไปมากมาย เรื่องนี้เป็นเรื่องปัจเจกล้วนๆ แต่เมื่อมีการขยายความกันออกไปกลับมีผู้คนที่บอกนับถือศาสนาอิสลามแบบเราเข้ามาพิพากษาเราอย่างใจดำ “บางคนบอกให้ออกจากศาสนาก็มี สำหรับเราแล้วนี่คือที่มาของการหล่อหลอมให้เราเป็นเรา นอกจากการเป็นอิสลาม เรายังอยากเป็นมนุษย์ที่มีหัวจิตหัวใจด้วยเช่นกัน ยอมรับว่าบางทีก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมสังคมมุสลิมเราต้องอยู่กันด้วยความเกรงกลัวคนมุสลิมกันเองขนาดนี้ ทำไมถึงผลักคนที่มีความเห็นต่างออกมาขนาดนี้ “ถามว่าครอบครัวอิสลามที่มีความก้าวหน้ามีมากมั้ย อันนี้ก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้จริงๆ แต่ดูจากปริมาณคนที่มาคอมเมนต์หรือทัก inbox มาบอกว่า เราเข้าใจคุณมากๆ นะ เขา relate กับมุมมองของเรา หรือโตมาแบบคล้ายๆ กัน “ก็พอตอบได้ว่ามีคนที่เติบโตมาด้วยประสบการณ์คล้ายๆ กันอยู่ สำหรับเราไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่พวกเขาอาจตกใจที่เราพูดหรือกลัวแทนเราด้วยซ้ำ และขอบคุณมิตรภาพของมุสลิมอีกหลายคนที่โอบรับเราไว้ “ถามว่าเติบโตมาอย่างไร เราโตมาในครอบครัวค่อนข้างเปิดกว้างนะ มีอิสระทางความคิด ทุกเย็นบนโต๊ะอาหารที่บ้านคือพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องทางสังคม การเมือง