สู้ก่อนตาย: มายด์ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล

“เวลาอยู่ข้างเราแน่นอน ข้างเราในที่นี้หมายถึงว่าเวลาอยู่ข้างประชาชนที่อิงกับความจริง และอยากได้สังคมที่ดีกว่านี้” ส่วนหนึ่งของบทสนทนาจาก มายด์ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล เรานัดหมายกันก่อนการประชุม APEC โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้น หากกล่าวตามตรง เมื่อแรกพบ ผมสังเกตเห็นความเหนื่อยล้าบางๆ เกาะติดเธอมาจากเมื่อวาน หลังจากเพิ่งผ่านการสลายการชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่ด้วยความรุนแรงเกินกว่าที่ใครหลายคนคาดคิด กระนั้น หากกล่าวตามตรงอีกเช่นกัน ทุกประโยคของหญิงสาวที่พูดถึงความเป็นไปได้ที่ดีกว่าของประเทศนี้ กลับยังคงเปี่ยมด้วยความหวังพราวในดวงตา ไม่ล้าโรย เวลาบ่ายปลายเดือนพฤศจิกายน ในร้านกาแฟที่สว่างด้วยแสงไฟครึ่งหนึ่ง และแสงจากดวงอาทิตย์อีกครึ่งหนึ่ง เบื้องหน้ามีแก้วโกโก้และแก้วกาแฟเพิ่มช็อตที่จัดวางตามแต่ใจ เราคุยกันในหลายประเด็น ทั้งเรื่องการกระจายอำนาจ เรื่องการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เรื่องการเมืองภาพใหญ่ ความรู้สึกของครอบครัวและในมุมชีวิตส่วนตัว แผนการในอนาคต ปิดท้ายด้วยเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มราษฎร์หยุด APEC 2022 บทสนทนาพาเวลาเคลื่อนผ่าน แต่อย่างที่มายด์บอก เวลาอยู่ข้างเรา และผมก็เชื่อเช่นนั้น เราคิดว่าทุกปัญหาต้องการกระจายอำนาจ ไม่ว่าจะความหลากหลายทางเพศ สุราก้าวหน้า กระทั่งม็อบคนรุ่นใหม่ คุณเห็นด้วยหรือไม่ เห็นด้วยแน่นอน เรื่องการกระจายอำนาจไม่ใช่เพียงแค่เอาอำนาจที่อยู่รวมศูนย์ไปกระจายออก แต่ว่าการกระจายอำนาจอีกรูปแบบหนึ่งก็คือการเปิดโอกาสให้ทุกความหลากหลายมีพื้นที่แชร์ในรูปแบบของตนเอง มายด์คิดว่าปัญหาในสังคมอย่างหนึ่งคือเมื่อมีชนชั้น หรือมีการแบ่งแยกว่าเป็นแบบไหนดีกว่าแบบไหน มันทำให้มีกำแพงกั้น ทำให้มีการถูกหยิบเลือกบางคนบางกลุ่มที่ดูแมสมากกว่า ดูเป็นคนกลุ่มใหญ่มากกว่า และอำนาจก็จะไปกระจุกตัวอยู่ที่คนเหล่านั้น คนที่เป็นคนส่วนน้อย คนที่ความคิดอาจไม่ได้ถูกยอมรับในวงกว้าง ก็จะไม่มีพื้นที่เท่าเทียมกันกับสิ่งที่มันแมสมากกว่า การกระจายอำนาจเป็นเรื่องของโอกาสในการมีพื้นที่แสดงทัศนะของตนเอง