ผสานแนวคิดเก่า-ใหม่โลกมุสลิมด้วยการกระจายอำนาจ

เมื่อเปิดหน้าประวัติศาสตร์ของโลกในมิติศาสนาสำหรับประเทศมุสลิมแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีความเกี่ยวพันกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งการมีส่วนร่วมทางการเมือง แนวความคิดที่หลากหลาย และวิถีชีวิต ชาวมุสลิมจำนวนไม่น้อยที่มีแนวคิดใหม่นั้น พวกเขาเชื่อว่ามนุษย์ถูกสร้างมาอย่างเสรี ให้มีสิทธิที่จะเลือกได้ เมื่อชีวิตของมนุษย์ถูกพรากเสรีภาพไปหรือลดทอนเสรีภาพลง นั่นเปรียบเสมือนว่าชีวิตนั้นกำลังขัดแย้งกับธรรมชาติของมนุษย์ และพวกเขามองว่าหลักศาสนาไม่ได้ขัดแย้งกับหลักแห่งเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด ถึงอย่างนั้นก็ยังมีกลุ่มอนุรักษนิยมที่มีความประสงค์ให้วิถีชีวิตเป็นอย่างที่มีมาแต่เดิม ทั้งในบริบทวัฒนธรรมและอารยธรรม พวกเขาไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดอื่นเพื่อการเปลี่ยนแปลง นี่คือความท้าทายท่ามกลางความคิดที่แตกต่างกันระหว่างเก่า-ใหม่ เนื่องจากยังมีบางกลุ่มที่ต้องการคัดค้าน ต่อต้านแนวคิดจากประเทศฝั่งตะวันตก เพื่อรักษาวิถีชีวิตและแนวทางแบบเดิม หรืออาจจะเข้มข้นยิ่งกว่าเดิมไว้ ด้วยอุดมคติอันแรงกล้าที่อยากจะเห็นความเจริญและรุ่งโรจน์อย่างในช่วงสมัยการพิชิตดินแดนโดยมุสลิม ดังนั้น การเริ่มต้นของกลุ่มคนที่ต้องการทำสิ่งใหม่ๆ ในสังคมมุสลิม จึงยังคงเป็นเพียงแนวความคิดชายขอบ บางครั้งก็ดูเหมือนว่าจะถูกจำกัดศักยภาพทางการเมืองเพียงเพราะมีความคิดที่แตกต่าง ทั้งที่นั่นน่าจะเป็นการแสดงออกถึงความความหวังทางการเมืองที่เกิดขึ้น เเละยังเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจจากประเทศมุสลิมทั่วโลกอีกด้วย กลุ่มหนึ่งที่มีแนวคิดต่อต้านการปรับเปลี่ยนวิถีใหม่ในโลกมุสลิมอย่างชัดเจนและมีอิทธิพลอย่างมากในประวัติศาสตร์โลกมุสลิม นั่นก็คือ กลุ่มภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood ) ซึ่งมีจุดเริ่มต้นในประเทศอียิปต์ ในปี 1928 นำโดย นายฮันซาน อัลบันนา ผู้ก่อตั้ง นักรณรงค์ และผู้นำกลุ่มภราดรภาพมุสลิมที่เป็นองค์กรที่ทรงอิทธิพล มีเครือข่ายในหลายประเทศและเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในยุคสมัยนั้น เพราะความคิดของอัลบันนานั้น ไม่เห็นด้วย และต่อต้านวัฒนธรรมตะวันตกจากหลากหลายประเทศมหาอำนาจ ที่แผ่ขยายอิทธิพลทั้งทางการเมืองและวัฒนธรรมเข้ามาในอียิปต์ เขามีเป้าหมายที่จะมีส่วนทางด้านกฎหมายเพื่อรักษารูปแบบแนวทางดั้งเดิมเอาไว้และทำให้ดูเข้มข้นมากกว่าเดิม อีกทั้งมีการเคลื่อนไหวปลุกระดมทางการเมืองกับประชาชน เวลาผ่านไปไม่กี่ปีเท่านั้นก็มีคนมากมายที่เห็นด้วยกับเเนวคิดของเขาและเข้าร่วมกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ยิ่งไปกว่านั้นเเนวคิดของเขายังส่งอิทธิพลไปถึงประเทศมุสลิมหลายประเทศในแถบแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง แต่ท้ายที่สุดแล้วฮาซัน อัลบันนาก็ถูกลอบสังหารใน ปี 1949

การล้อเลียน คืออำนาจต่อกร เผด็จการ

นอกจากภาพหนูน้อยในชุดแต่งกายเลียนแบบควีนอังกฤษแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่เราไม่พูดถึงไม่ได้คือ วงพังค์นาม Sex Pistols God Save The Queen อยู่ในอัลบั้ม Never Mind the Bollocks, Here’s the Sex Pistols ได้รางวัล NME อะวอร์ดส์ สาขาซิงเกิลยอดเยี่ยม John Lydon ฟรอนต์แมนลีลากวนอวัยวะใช้เดินเคยชื่นชมพระราชินีที่สามารถครองราชย์มาได้อย่างยาวนาน แต่ยังเน้นย้ำความคิดของเขาว่า “ผมต่อต้านราชวงศ์ แต่ไม่ได้ต่อต้านความเป็นมนุษย์” ย้อนกลับไปในปี 1977 ควีนครองราชย์ครบ 25 ปี ทางวงได้ลงเรือล่องเเม่น้ำจากท่ากรุงลอนดอน ปล่อยซิงเกิล God Save The Queen เพื่อโปรโมต รวมถึงเย้ยควีนด้วยการซาวด์เช็กสุดหยาบ ครั้นเรือผ่านรัฐสภา พวกเขาถูกตำรวจน้ำล้อมเรือ ตัดไฟ และพาเข้าฝั่ง สมาชิกหลายคนถูกจับ ทั้งหมดทั้งมวลส่งให้ BBC ปฏิเสธจะเปิดเพลง God Save The Queen แต่ช้าไปแล้ว เพลงไต่ขึ้นอันดับ