คุยเรื่องกระจายอำนาจในร้านหนังสืออิสระ

“ผู้ว่าฯ แต่งตั้งไม่เคยเชื่อมโยงกับประชาชน แม้บางคนจะเป็นคนพื้นที่ซึ่งกลับมารอเกษียณ เขาอยู่ใน safe zone ของชีวิตราชการที่ทำงานตามนโยบาย ไม่กระด้างกระเดื่องและปล่อยไหลไปตามระบบ” หากเราอนุมานตามกระแสสังคมที่ว่า การอ่านคือการเพิ่มทัศนคติและความรู้ใหม่ๆ ร้านหนังสือก็ไม่ต่างจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในสมการนั้น เราคุยกับ คีตญา อินทร์แก้ว เจ้าของร้านหนังสือ Low-Pressure Area : ความกดอากาศต่ำ ร้านหนังสืออิสระในจังหวัดสตูล หลากหลายประเด็นน่าสนใจชวนอ่าน ในมุมมองเจ้าของร้านหนังสืออิสระ ซึ่งเสมือนแหล่งท่องเที่ยว เป็นหน้าเป็นตาให้จังหวัด ยังขาดการสนับสนุนจากรัฐอย่างไรครับ พูดตรงๆ เลยก็คือเราไม่เคยได้รับการสนับสนุนใดๆ จากจังหวัดหรือหน่วยงานราชการเลย แต่แน่นอนว่า การตั้งใจทำร้านหนังสืออิสระของเราตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นอิสระของตัวเราเองอยู่แล้ว ไม่ได้ต้องการการสนับสนุนจากทางราชการ ที่เราต้องการคือการมองเห็นความสำคัญและเห็นคุณค่าของร้านหนังสือในจังหวัด ไม่จำเพาะต้องเป็นร้านเราด้วย จริงๆ ในเมืองสตูลเคยมีร้านหนังสือมากกว่านี้ เคยมีชั้นหนังสือวรรณกรรมเยอะกว่านี้ แต่มันก็ค่อยๆ ตายไปด้วยวงจรของธุรกิจ เมื่อมันไม่ทำเงิน ร้านอื่นๆ ก็ส่งวรรณกรรมกลับคืนสายส่ง กลับคืนสำนักพิมพ์ ชั้นวรรณกรรมจึงว่างเปล่า และถูกแทนที่ด้วยสินค้าอย่างอื่น ซึ่งเราเห็นแล้วก็เสียดาย เปิดร้านหนังสือมา 7 ปี ไม่เคยมีผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายกฯ อบจ. หรือผู้มีความสามารถในการผลักดันในเชิงนโยบายเข้ามาที่ร้าน มาชายตาแล ไม่เคยมองเห็นความสำคัญว่าร้านหนังสือช่วยดูแลเยาวชนอย่างไร

ศึกษาจากอเมริกา: ปฏิรูปตำรวจไทยด้วยการกระจายอำนาจ

ระบบตำรวจอเมริกันมีชั้นยศน้อยมาก แต่แบ่งอำนาจความรับผิดชอบตามหน้าที่มากกว่า คล้ายๆ กับพนักงานของบริษัท อเมริกาไม่มีระบบหรือโครงสร้างตำรวจแห่งชาติ แต่มีการแบ่งอำนาจและหน้าที่เป็นส่วนงานตามภูมิศาสตร์ 5 โดย มี 5 หน่วยงานหลักดังนี้ 1. Federal 2.State 3.County: Police, Sheriffs 4.Municipal 5.Other 1.Federal: ตำรวจส่วนกลาง ซึ่งขึ้นต่อกระทรวงยุติธรรม The Federal Bureau of Investigation (FBI) หน่วยสืบสวนกลางหรือ เอฟบีไอ มีหน้าที่สืบสวน สอบสวนในทุกระดับทั่วประเทศ เป็นตำรวจส่วนกลางของชาติ ขึ้นต่ออธิบดีกรมอัยการ (Attorney General) และผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับ (Director of National Intelligence) มีอำนาจครอบคลุมในการสืบสวนและจับในคดีกว่า 200 ประเภท เอฟบีไอแม้ว่าบทบาทหน้าที่หลักมีขอบเขตอยู่ภายในประเทศ แต่ก็มีตัวแทนทำงานเป็นสำนักเล็กๆ ในสถานทูต 60 แห่งทั่วโลก และในสถานกงสุลอีก 15 แห่งเพื่อทำงานลับ 2.State: ตำรวจของรัฐ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ 

ทำไมต้องเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ

𝟎𝟏 แค่กระแสชัชชาติหรือเปล่า การเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เกิดขึ้นมาตั้งแต่หลัง ‘พฤษภาปี 2535’ การรณรงค์ของเราและประชาชนที่ลงชื่อ ปฏิเสธมิได้ว่า ความสามารถและกระตือรือร้นของชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม. ส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมการเรียกร้องต้องการให้เกิดการเลือกผู้ว่าฯ ของคนทุกจังหวัด 𝟎𝟐 ทับซ้อนกับ อบจ.หรือไม่ หากเราพูดถึงการกระจายอำนาจ การเลือกผู้ว่าฯ ราชการจังหวัด หรือผู้นำสูงสุดของจังหวัด เป็นการพูดกันมากว่า 30 ปีแล้วดังข้อที่ 1 มีการรณรงค์ซึ่งทำสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ต้องรอรัฐธรรมนูญ ปี 40 และพระราชบัญญัติขั้นตอนกระจายอำนาจ ปี 42 เกิดการเลือก นายก อบจ. นายกเทศมนตรี นายก อบต. โดยมีเจตนารมณ์ห้วงนั้นคือ ต้องให้อิสระ อำนาจหน้าที่ ถ่ายโอนภารกิจที่เคยเป็นของส่วนกลางไปไว้ที่ท้องถิ่น ให้ความเป็นอิสระทางงบประมาณการเงิน บุคลากร ส่วนกลางทำแต่เพียงกำกับดูเแล ไม่ใช่บังคับบัญชา ‘อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล’ เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวในวงเสวนาหลายวงว่า เราเดินเส้นทางนี้มาเรื่อยๆ ครั้นผ่าน 30 ปี ‘กลับไปไม่ถึงไหน’ การรัฐประหารทั้งปี

รักชนก ศรีนอก: ความจนมิได้หล่นจากฟ้า

ความสำเร็จของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางความคิดความเชื่อทั้งในระดับสังคมและปัจเจกอย่างมีนัยยสำคัญ หลังจากการบ่มเพาะที่มีผลมาจากการตื่นตัวทางความคิดความเชื่อของประชาชนในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราคงกล่าวได้ว่าสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้เริ่มพัดเข้าสู่สังคมไทยแล้ว และนั่นทำให้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์หลายอย่างเป็นที่พูดถึง หนึ่งในนั้นคือผู้สมัคร ส.ส. หน้าใหม่ ที่เอาชนะ ส.ส. หน้าเก่าอย่างถล่มทลาย เขตเลือกตั้งที่ 28 กรุงเทพมหานคร จอมทอง (เฉพาะแขวงบางขุนเทียน) เขตบางบอน (ยกเว้นแขวงบางบอนใต้และแขวงคลองบางบอน) และเขตหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม) จากการหาเสียงด้วยจักรยานคันเดียว และใช่ นี่คือบทสนทนากับเธอ ตัวตึง ไอซ์-รักชนก ศรีนอก ตลอดเวลาที่สัมภาษณ์ ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ต่างออกไปจากการพูดคุยกับนักการเมืองที่ผ่านมา ผู้หญิงเบื้องหน้าผมพูดคุยด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ และเปี่ยมด้วยความเป็นธรรมชาติมากที่สุดคนหนึ่ง ยามบ่ายปลายฤดูร้อน ต่อหน้าเครื่องดื่มเย็นในแก้วกระดาษ ผมกำลังพูดคุยกับ ส.ส. หน้าใหม่ ไอซ์-รักชนก ว่าด้วยเรื่องที่มา ตัวตน มุมมองทางการเมือง การกระจายอำนาจ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ หลากเรื่องเนิ่นยาว เท่าเวลาของแดดเดือนกรกฎาคม คุณเติบโตมาอย่างไร เป็นลูกบุญธรรมของบ้านที่ค่อนข้างลำบาก เพราะเขามีลูก 6 คน รับเรามาเป็นคนที่ 7 ฐานะไม่ค่อยดี พวกพี่ๆ ก็ไม่ค่อยได้เรียน พอพี่คนหนึ่งคลอดลูกชายออกมา เราก็เหมือนเป็นเด็กที่โดนเปรียบเทียบ

พนิดา มงคลสวัสดิ์: ก้าวไกลผู้ล้มบ้านใหญ่ในสมุทรปราการ

เกิดในชนชั้นแรงงาน โตในชนชั้นแรงงาน พนิดา มงคลสวัสดิ์ เข้าใจดีถึงความลำบากยากเข็ญ เหงื่ออาบหน้าตอนออกรอบตีกอล์ฟ กับตอนหลังขดหลังแข็งทำงานโดยได้ค่าแรงต่ำเตี้ยเลียดินมันต่างราวฟ้ากับเหว “พี่น้องแรงงานทำงานควงกะจนไม่รู้จะควงยังไงแล้ว ชีวิตคนเราตื่นตั้งแต่ตีห้าหกโมง ออกไปทำงาน เลิกงานปกติของคนอื่นห้าหกโมง ของเราไม่ มีแรงเหลือ ควงไปอีกสักหน่อย เลิกงานสักสี่ทุ่ม กลับถึงบ้านเที่ยงคืน แปดโมงเช้าเริ่มใหม่ เอ้อ! ชีวิตต้องทำงานเป็นเครื่องจักรขนาดนั้นยังบอกไม่ขยันอีก” บรรทัดด้านบนจึงเป็นการพูดอยู่บนความจริง เสียงจริง จากตัวจริง ปัจจุบันพนิดาเป็น ส.ส.เขต 1 จังหวัดสมุทรปราการ พรรคก้าวไกล ล้มบ้านใหญ่พังครืน ลบมายาคติเชยๆ ว่า เลือกตั้งไปก็เท่านั้น ได้บ้านใหญ่ ได้หน้าเดิม กระทั่งได้มาเฟีย เพราะปัจจุบัน ผู้คนเลือกจากนโยบาย เพื่อมิให้เป็นการเสียเวลา เชิญอ่านทัศนะของเธอ ทั้งเรื่องกระจายอำนาจ เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ นักโทษการเมือง ม.112 และอื่นๆ สมัยเด็กกว่านี้ คุณให้สัมภาษณ์ว่า เติบโตมาในครอบครัวชนชั้นแรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย คุณพ่อมาจากอุดรธานี คุณแม่มาจากสกลนคร มาพบรักที่สมุทรปราการ และเกิดเป็น ผึ้ง พนิดา เพราะหลีกหนีความยากจนจากต่างจังหวัด

เชียงใหม่แห่ไม้ก้ำ จงสมปรารถนา เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ  

วันที่ 24 มิถุนายน 2475 วันที่คณะราษฎรปฏิวัติให้ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตย ในวันเดียวกันปี 2566 คณะก่อการล้านนาใหม่ ก็ประกาศกร้าวขึ้นอีกครั้ง แห่ไม้ก้ำ ค้ำจุนประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น ปักหมุดกระจายอำนาจ และรัฐสวัสดิการต้องถ้วนหน้า แห่ไม้ก้ำ เป็นประเพณีล้านนาเดิมที่ประชาชนจะเอาไม้ง่ามไปค้ำที่ต้นโพธิ์ในวัดต่างๆ เพื่อสื่อสารถึงการค้ำจุนศาสนาพุทธ แต่ในครั้งนี้แห่ไม้ก้ำได้นำมาใช้อีกครั้ง เพื่อค้ำจุนประชาธิปไตยให้ก้าวหน้า เกิดการกระจายอำนาจ ให้อำนาจเป็นของประชาชน โดยต้องมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ไม่เอาผู้ว่าราชการจังหวัดจากการแต่งตั้งของรัฐส่วนกลาง และมีรัฐสวัสดิการเพื่อให้รัฐไม่ใช้อำนาจในทางอื่นใดนอกจากรับใช้ประชาชน นอกจากกิจกรรมแห่ไม่ก้ำประชาธิปไตย ปักหมุดหมายกระจายอำนาจ ในวันที่ 24 มิถุนายน 2566 ยังมี เสวนา-รัฐธรรมนูญ-กระจายอำนาจ จัดที่โรงแรม iBis Style เชียงใหม่ โดยคณะก่อการล้านนาใหม่  มช.ขอย้าย โดยการเสวนา ถูกประกาศขอให้ย้ายสถานที่ เนื่องจากคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้เหตุผลว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หนึ่งในวิทยากรขึ้นพูด รวมถึงเนื้อหาในงาน ทำให้เกิดความกังวลเกรงว่าเสวนานี้จะเป็นการเผยแพร่แนวคิดแบ่งแยกดินแดน และสร้างความขัดแย้งในสังคมได้ โดยทางคณะนิติศาสตร์จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเช่าสถานที่ให้ เสวนา-รัฐธรรมนูญ-กระจายอำนาจ วันที่ 23 มิถุนายน 2566 ณ

เฌอเอม – ชญาธนุส ศรทัตต์: โรยสายรุ้งให้เท่าเทียมกันทุกจังหวัด ชีวิตที่เสมอภาคและกระจายอำนาจทั่วประเทศ (2)

ช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2562 เฌอเอม – ชญาธนุส ศรทัตต์ มิสแกรนด์ลำพูน 2022 ส่งข้อความหาผู้สมัคร ส.ส.ทุกพรรคในเขตบ้านของเธอ ถามเรื่องปัญหามลภาวะทางเสียงและอากาศว่าจะแก้อย่างไร ผลคือมี อนาคตใหม่ พรรคเดียวที่ตอบกลับมา “ทั้งๆ เป็นพรรคที่ยังไม่มีอำนาจเลย คนในพื้นที่ไม่รู้จัก ไม่สนับสนุน” คุณรู้สึกอย่างไร ประทับใจจากข้อความอันเดียวของเขา เพราะเราไม่ต้องการนักการเมืองที่เหมือนตำรวจคนนั้น ที่ขับมาแล้วไม่จับใคร ไม่ทำอะไรสักอย่าง คือเราไม่ต้องการการทอดทิ้งจากรัฐ เราต้องการนักการเมืองที่ฟังสียงของเรา ตอนนั้นมันทำให้เรารู้สึกว่า เออ นักการเมืองมันไม่ใช่แบบที่เราไปนั่งชั่งน้ำหนักเอาว่าดีหรือไม่ดี เราเลือกโพสต์ออกเฟซบุ๊กเลยว่า เราชื่นชมมาก เราไม่ต้องการหรอกค่ะนายกฯ คนดี เราต้องการนายกฯ คนเก่งที่สามารถทำงานได้ รู้ปัญหาของประชาชน เพราะถ้าท่านดีบนศีลธรรมของตนเอง ดีอยู่บนหอคอยงาช้าง ประชาชนก็ไม่ได้อะไร เราอยากให้ยุคสมัยใหม่มันมาถึง หลังจากสเตตัสนั้นโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊ก เราเป็นนางแบบมานานพอสมควรในช่วงนั้น วันรุ่งขึ้นไปงานเดินแบบ ไม่มีใครรับไหว้เลย แล้วก็ไม่มีงานอีกเลย และนั่นคือเทิร์นนิ่งพอยท์ของเรา จากคนที่บ่นอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่ใช่คนเทคแอคชันอะไร เรากลายเป็นคนเทคแอคชันเลย เพราะเรามีความรู้สึกว่า เราไม่สามารถอยู่ในสังคมแบบนี้ต่อไปได้ เจอปัญหาในการทำงานอะไรอีก มันเหมือนเรารอวันตายอะ เพราะ คนพวกนี้ เขาอยากให้เรา

เฌอเอม – ชญาธนุส ศรทัตต์: จากผู้วางเฉยสู่ผู้ตื่นรู้ (1)

หากพูดถึงเวทีการประกวดนางงาม เราอาจคุ้นเคยกันหลายเวที แต่หากนึกถึงนางงามที่ส่งเสียงและเคียงข้างประชาชน เฌอเอม – ชญาธนุส ศรทัตต์ คือหนึ่งในท็อปลิสต์ของบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมและต่อสู้เคียงข้างพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ไม่ว่าเป็นการลงพื้นที่เพื่อเข้าถึงปัญหาและร่วมสู้กับขบวนพี่น้องบางกลอยและประเด็นชาติพันธุ์ เรามักเห็นเฌอเอมปรากฎตัวและพูดถึงความต้องการและปัญหาซึ่งพื้นที่เจออยู่เสมอ จนเกิดการลบภาพจำการเป็นนางงามในอดีตที่อยู่ไกลตัวประชาชน สร้างมาตรฐานนางงามที่เคียงข้าง ใกล้ชิดประชาชน ยึดโยงตนเองกับพื้นที่เพื่อพูดแทนพี่น้องประชาชน นอกจากการทำงานของ เฌอเอม ที่พิสูจน์ตนเองมาโดยตลอดว่า การเป็นมิสแกรนด์ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมได้ เฌอเอมมักมีหลักการในการพูดถึงข้อเสนอต่อการเปลี่ยนแปลง และเมื่อได้เจอกับผู้มีอำนาจ อย่างในเวทีการประมวดมิสแกรนด์ครั้งล่าสุด ไพบูลย์ นิติตะวัน หนึ่งในสมาชิกรัฐบาล ประยุทธ์ จันทร์โอชา เฌอเอมได้ทวงถามและยืนยันถึงปัญหา การรับผิดชอบและการแก้ไข นี่คือสิ่งที่เฌอเอมทำมาโดยตลอด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เห็นมิสแกรนด์คนนี้อยู่งานเคลื่อนไหวบนท้องถนน เคียงคู่พี่น้องอยู่เสมอ และยังเป็นคนที่ได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์ด้วยสิ่งที่เฌอเอมทำ ครั้งนี้เราจะมาพูดคุยกับเฌอเอมในฐานะคนที่ขับเคลื่อนประเด็นทางสังคม ร่วมกันฟังเสียงของประชาชนผ่านเรื่องราวที่เฌอเอมพบเจอ มุมมองและเข้าใกล้ความคิดของเฌอเอม มากขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอำนาจจะอยู่ในมือประชาชน และบทสัมภาษณ์นี้ขอเป็นหนึ่งในแรงเล็กๆ ที่จะสนับสนุนให้เกิดการกระจายอำนาจจากศูนย์กลางมาเป็นการให้อำนาจประชาชนกำหนดทิศทางของประเทศ ด้วยอำนาจที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศจะได้วางทิศทางของสังคมด้วยมือของตนเอง ไม่ใช่คนลำพูน ไม่ใช่คนที่สูงกว่าใคร เป็นประชาชนที่อยากเห็นชัยชนะของประชาธิปไตย ทำไมถึงลงมิสแกรนด์ลำพูน เราไม่ใช่คนลำพูน เราเป็นคนนนทบุรีที่ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ย้ายบ้านมากรุงเทพฯ ด้วย แต่ลงมิสแกรนด์ลำพูนเพราะว่า เราชอบคอนเซปต์ของมิสแกรนด์ที่เป็นนางงามแต่ต้องอยู่กับชุมชน แม้ว่าคนอื่นจะทำหรือไม่ทำก็เรื่องของเขา แต่เราซื้อคอนเซปต์นี้ เราก็เลยดูในภาคเหนือว่ามันมีจังหวัดไหนบ้างที่มันมีความน่าสนใจในเรื่องของวัฒนธรรมหรือเรื่องชุมชน ก็เลยมาเจอลำพูน

เดชรัต สุขกำเนิด: อำนาจทางการเมืองคืออะไร

การจัดสวัสดิการให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น จึงเป็นทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ไปพร้อมๆ กับการสร้างการมีส่วนร่วมและความมั่นคงทางการคลังของประเทศด้วย ขอความรู้จาก เดชรัต สุขกำเนิด ปริญญาโทด้านการพัฒนาการเกษตรและชนบทจาก Institute of Social Studies ประเทศเนเธอร์แลนด์ ปริญญาเอกด้านการวางแผนและพัฒนาจาก Aalborg University ประเทศเดนมาร์ก. อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันคือ ผู้อำนวยการ Think Forward Center นโยบายการพัฒนาประเทศพรรคก้าวไกล อ่านที่อาจารย์เขียนในเว็บคณะก้าวหน้าว่า อำนาจทางการเมืองมีหลายแบบ ถ้าเราจะกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น อำนาจนั้นๆ มีอะไรบ้าง อำนาจทางการเมืองที่สำคัญอาจแบ่งได้เป็น 4 อำนาจใหญ่ๆ นั่นคือ หนึ่ง… อำนาจในการตัดสินใจ ว่าจะเลือกทำอะไร หรือไม่ทำอะไร เช่น การอนุมัติ อนุญาต กิจการ/โครงการ/ผังเมืองต่างๆ หรือจะดำเนินการในรูปแบบใด สอง… อำนาจในการจัดสรรและบริหารทรัพยากร เช่น การจัดสรรงบประมาณในด้านต่างๆ การลงทุน การจัดระบบสวัสดิการ รวมถึงการบริหารงานบุคคล สาม… อำนาจในการกำหนดวาระ/ประเด็นสำคัญในแต่ละพื้นที่ หรือแต่ละช่วงเวลา เช่น การอนุรักษ์/ปรับปรุงนิเวศวัฒนธรรม การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่

เรื่องเล่าจากอิสลามคนหนึ่งที่ถูกมองว่าเติบโตมาอย่างผิดแปลก

สัมภาษณ์มุสลิมคนหนึ่ง โดยถูกขอให้ใช้คำว่า เรื่องเล่าจากอิสลามคนหนึ่งที่ถูกมองว่าเติบโตมาอย่างผิดแปลก และย้ำว่า ไม่ใช่คนที่มีทฤษฎีวิชาการทางศาสนา เพียงพูดในมุมมองของปัจเจก-เราคิดว่าคำคำนี้หมายถึงความเป็นมนุษย์ “เกิดมาในครอบครัวที่เป็นอิสลาม เอกสารราชการระบุว่านับถือศาสนาอิสลาม แต่เราเองคงไม่อาจกล่าวได้ว่าตนเป็นมุสลิมที่ดีหรือถูกต้อง จากประเด็นถกเถียงก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์กันไปมากมาย เรื่องนี้เป็นเรื่องปัจเจกล้วนๆ แต่เมื่อมีการขยายความกันออกไปกลับมีผู้คนที่บอกนับถือศาสนาอิสลามแบบเราเข้ามาพิพากษาเราอย่างใจดำ “บางคนบอกให้ออกจากศาสนาก็มี สำหรับเราแล้วนี่คือที่มาของการหล่อหลอมให้เราเป็นเรา นอกจากการเป็นอิสลาม เรายังอยากเป็นมนุษย์ที่มีหัวจิตหัวใจด้วยเช่นกัน ยอมรับว่าบางทีก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมสังคมมุสลิมเราต้องอยู่กันด้วยความเกรงกลัวคนมุสลิมกันเองขนาดนี้ ทำไมถึงผลักคนที่มีความเห็นต่างออกมาขนาดนี้ “ครอบครัวอิสลามหัวก้าวหน้ามีมากไหม” เราถาม มุสลิมคนหนึ่งตอบว่าไม่อาจระบุได้ ไม่รู้จริงๆ “แต่ดูจากปริมาณคนที่มาคอมเมนต์หรือทัก inbox มาบอกว่า เราเข้าใจคุณมากๆ นะ เขา relate กับมุมมองของเรา หรือโตมาแบบคล้ายๆ กัน “ก็พอตอบได้ว่ามีคนที่เติบโตมาด้วยประสบการณ์คล้ายๆ กันอยู่ สำหรับเราไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่พวกเขาอาจตกใจที่เราพูดหรือกลัวแทนเราด้วยซ้ำ และขอบคุณมิตรภาพของมุสลิมอีกหลายคนที่โอบรับเราไว้ ต่อคำถามคุณเติบโตมาอย่างไร นี่คือคำตอบ “เราโตมาในครอบครัวค่อนข้างเปิดกว้างนะ มีอิสระทางความคิด ทุกเย็นบนโต๊ะอาหารที่บ้านคือพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องทางสังคม การเมือง ถ้าถามว่าความก้าวหน้าเกิดขึ้นเมื่อไร และเกิดขึ้นได้อย่างไรคำตอบคือ มื้อเย็นในครอบครัว ที่จริงก็ไม่อยากใช้คำว่าก้าวหน้าหรืออะไรแบบนั้นนะ “เพราะมันควรเป็นความปกติมากกว่าในการเปิดโอกาสให้ได้สงสัย ตั้งคำถาม และแลกเปลี่ยนความเห็น เราเชื่อว่าในยุคที่ศิลปวิทยากรและวิทยาศาสตร์ในโลกมุสลิมที่เคยรุดหน้ามากที่สุด ซึ่งหลายอย่างเป็นพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ทุกวันนี้ก็มาจากการสงสัยและตั้งคำถาม “เราถูกสอนเสมอว่าสังคมต้องเดินไปข้างหน้า เราเองต้องยอมรับพัฒนาการและปรับตัว