ภายในสองปีนับแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้คณะรัฐมนตรีจัดทำแผนการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค
นับเนื่องเป็นความภาคภูมิยิ่งที่มหาวิทยาลัยบูรพา เชิญผมไปร่วมเสวนาวิชาการ วันสถาปนาคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ประจำปี 2566 ในหัวข้อ ภูมิภาคอภิวัฒน์ ท้องถิ่นอภิวัฒน์ การออกเเบบการกระจายอำนาจของรัฐไทย
ในวันที่ 26 มกราคม 2566 เวลา 13.00 – 17.30 น. ณ ห้องประชุม 402 ชั้น 4 คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ท่านสามารถดูสดและย้อนหลังได้ทาง www.facebook.com/Polsci.LawBuu
ร่วมกับวิทยากรท่านอื่นๆ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แห่ง คณะก้าวหน้า / วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส. พรรคก้าวไกล / และ 3 เอกอุด้านกระจายอำนาจ อ.ชำนาญ จันทร์เรือง / บรรณ แก้วฉ่ำ รวมไปถึง อ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว เจ้าถิ่น
มีนักการเมืองแล้ว นักรณรงค์ปลดล็อกท้องถิ่นแล้ว นักวิชาการแล้ว ผมขอพูดในฐานะคนทำสื่อ The Voters สื่อเพื่อการกระจายอำนาจ
และนี่คือการบ้านที่ผมเตรียมไว้ 5 ข้อดังนี้
1.เชิญชวนพี่น้องสื่อมวลชน
ตามหลักการสากลแล้ว การกระจายอำนาจและงบประมาณหมายถึงการกระจายคุณภาพชีวิตที่ดีสู่คนทั้งประเทศ ผมจึงอยากชวนเพื่อนพี่น้องสื่อมวลชน เปิดพื้นที่ให้คอนเทนต์กระจายอำนาจมากขึ้นอีกหน่อย
สื่อสารไปยังผู้คนว่า การกระจายอำนาจนำพาซึ่งความเจริญได้กี่รูปแบบ เปิดผ้าแห่งความคลุมเครือออกให้เห็นกันชัดๆ ข้อนี้ผมไม่มีความกังวลใดๆ เพราะเชื่อมั่นเหลือเกินว่า มีสื่อมวลชนจำนวนมากเข้าใจเรื่องการกระจายอำนาจ ที่เหลือก็เพียงแค่จะหาหีบห่อมาหุ้มอย่างไรให้เร้าอารมณ์
2.สำรวจตรวจสอบคนในเพจ
สำหรับคนในเพจThe Voters เท่าที่ผมสำรวจตรวจสอบด้วยตาเปล่า แทบทั้งหมดเข้าใจคำว่า กระจายอำนาจเป็นอย่างดี ทราบว่าประเทศไทยประกอบไปด้วย 3 ส่วน อันได้แก่ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
และมีจำนวนไม่น้อยเลยที่กรุณาแนะนำว่าเราต้องยกเลิกส่วนภูมิภาคเสีย เพราะส่วนนี้เสมือนเป็นมือไม้ของส่วนกลางไว้กำกับส่วนท้องถิ่นมิให้เจริญเติบโต
มิพักต้องพูดถึงข้อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ไม่เอาอีกแล้วประเภทนำร่อง เพราะเรานำร่องกับกรุงเทพมหานครมานาน จังหวัดอื่นๆ ไม่ได้เลือกกันเสียที
พูดแล้วก็พูดให้สุด ผู้คนที่เรียกร้องให้เลือกตั้งผู้ว่าราชการทุกจังหวัด มิใช่พวกเขาไม่รู้ว่าเรามี นายก อบจ.อยู่แล้ว รู้เสียยิ่งกว่ารู้ แต่ในเมื่อขอบเขตอำนาจของ นายก อบจ. มีจำกัด ทำไมเราไม่เริ่มต้นปฏิรูปกันใหม่ ไม่เอาแล้วผู้ว่าฯ จากการแต่งตั้ง ต้องเลือกตั้งเท่านั้น
ยุบรวม นายก อบจ. เข้าไว้ด้วยกัน เหลือผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดเพียงตำแหน่งเดียว
3.ปลดล็อกท้องถิ่น
สำหรับคนที่ลงชื่อแคมเปญปลดล็อกท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า ไม่ต้องเสียใจที่ร่างถูกคว่ำในสภาฯ เราต้องไปต่อ
เร็วๆ นี้ ทาง The Voters จะเปิดให้ลงชื่อจนเกิน 5 หมื่นเป็นขั้นต่ำ ในร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 14 อันว่าด้วยการปกครองท้องถิ่น
เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดทั่วประเทศ และจังหวัดจัดการตนเอง
4.สาระหลักของร่าง
ผมขออนุญาตหยิบยกสาระสำคัญๆ ของร่างนี้ ดังนี้
1.กำหนดให้รัฐต้องจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินแบบกระจายอำนาจ และต้องให้ความเป็นอิสระแก่ท้องถิ่นตามหลักแห่งการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น หากท้องถิ่นใดมีลักษณะที่จะปกครองตนเองได้ย่อมมีสิทธิจัดตั้งเป็นจังหวัดจัดการตนเอง และมีสิทธิเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดของจังหวัด
2.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแบ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบทั่วไป ได้แก่ ยุบรวม นายก อบจ. ให้กลายเป็นผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดจากการเลือกตั้ง จังหวัดมี 2 ชั้น คือชั้นบน ผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดจากการเลือกตั้ง ชั้นล่าง เทศบาล อบต.ยังดำรงอยู่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สังกัดส่วนท้องถิ่น และมาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายอำเภอกลับกรมการปกครอง
3.การจัดสรรส่วนรายได้ระหว่างราชการส่วนกลางและราชการส่วนภูมิภาคกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเพิ่มขึ้นโดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบภายในสามปีนับแต่วันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ
4.ภายในสองปีนับแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้คณะรัฐมนตรีจัดทำแผนการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค
5.ทิ้งท้าย
ตามความเห็นของผม ทุกปัญหาต้องการกระจายอำนาจ หรือพูดอีกแบบคือ การกระจายอำนาจจำเป็นต่อทุกปัญหา หมายความว่า เมื่อไหร่ที่ประชาชนรู้สึกว่าพวกเขามีอำนาจทางการเมือง เมื่อนั้นพวกเขาจะมีกำลังใจส่งเสียงเรียกร้องต่อประเด็นสังคมการเมืองที่ตนสนใจ
เมื่อไหร่ที่พวกเขาคิดว่าตนเป็นเจ้าของบ้านเกิด เมื่อนั้นพวกเขาจะอยากร่วมคิด ร่วมผลักดันนโนบายจากล่างขึ้นบน คือจากความต้องการของประชาชนจริงแท้ๆ ไม่ใช่รอเทวดาโปรยลงมาโปรด
ขอบคุณครับ