เกิดในชนชั้นแรงงาน โตในชนชั้นแรงงาน พนิดา มงคลสวัสดิ์ เข้าใจดีถึงความลำบากยากเข็ญ เหงื่ออาบหน้าตอนออกรอบตีกอล์ฟ กับตอนหลังขดหลังแข็งทำงานโดยได้ค่าแรงต่ำเตี้ยเลียดินมันต่างราวฟ้ากับเหว
“พี่น้องแรงงานทำงานควงกะจนไม่รู้จะควงยังไงแล้ว ชีวิตคนเราตื่นตั้งแต่ตีห้าหกโมง ออกไปทำงาน เลิกงานปกติของคนอื่นห้าหกโมง ของเราไม่ มีแรงเหลือ ควงไปอีกสักหน่อย เลิกงานสักสี่ทุ่ม กลับถึงบ้านเที่ยงคืน แปดโมงเช้าเริ่มใหม่ เอ้อ! ชีวิตต้องทำงานเป็นเครื่องจักรขนาดนั้นยังบอกไม่ขยันอีก”
บรรทัดด้านบนจึงเป็นการพูดอยู่บนความจริง เสียงจริง จากตัวจริง
ปัจจุบันพนิดาเป็น ส.ส.เขต 1 จังหวัดสมุทรปราการ พรรคก้าวไกล ล้มบ้านใหญ่พังครืน ลบมายาคติเชยๆ ว่า เลือกตั้งไปก็เท่านั้น ได้บ้านใหญ่ ได้หน้าเดิม กระทั่งได้มาเฟีย เพราะปัจจุบัน ผู้คนเลือกจากนโยบาย
เพื่อมิให้เป็นการเสียเวลา เชิญอ่านทัศนะของเธอ ทั้งเรื่องกระจายอำนาจ เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ นักโทษการเมือง ม.112 และอื่นๆ

สมัยเด็กกว่านี้ คุณให้สัมภาษณ์ว่า เติบโตมาในครอบครัวชนชั้นแรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย
คุณพ่อมาจากอุดรธานี คุณแม่มาจากสกลนคร มาพบรักที่สมุทรปราการ และเกิดเป็น ผึ้ง พนิดา เพราะหลีกหนีความยากจนจากต่างจังหวัด
ปู่ยาตายายก็ทำนาทำไร่ แต่ว่าลูกเยอะ ทำนาทำไร่รายได้มันไม่พอทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
แม่ก็มาทำงาน พ่อก็ทำงานส่งน้องเขาเรียน ทำงานโรงงานทั้งคู่ ผึ้งเลยเกิดที่นี่ พูดภาษาอีสานได้เพราะปิดเทอมตอนเด็กๆ ก็กลับบ้าน
วัยเด็ก คุณพบเห็นความลำบากอะไรจากคนอื่นๆ นอกเหนือจากครอบครัวคุณ
ผึ้งเป็นลูกคนเดียว พ่อกับแม่ก็ตั้งใจอยากส่งลูกเรียนให้ดีที่สุด ทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต ครอบครัวฐานะอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยของคนส่วนมากในประเทศนี้ ผึ้งเรียนดีตั้งใจเรียน และเป็นเด็กกิจกรรมด้วย
เราเห็นความเหลื่อมล้ำ พ่อกับแม่ถูกปฏิบัติในอีกมาตรฐานหนึ่งที่ต่างจากคนอื่นๆ ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเรา เราไม่รวยหน่วยงานรัฐก็ปฏิบัติกับเราอีกแบบ หรือแม้แต่คนในสังคมเขาก็ปฏิบัติกับเราอีกแบบ
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราใส่เสื้อสีกากี ใส่สูทผูกไทค์ เราจะได้รับการปฏิบัติอีกแบบ เช่น ก่อนเราเป็นผู้สมัคร ส.ส. คุณแม่ผึ้งเพิ่ง early retry ตนเองออกมา โทรมาเสียงสะอื้นร้องไห้ โดนประกันสังคมไล่ เพราะแม่ก็ตาสีตาสา ต้องยื่นเอกสารอะไรยังไง แกไม่เข้าใจ ทำไม่เป็น ด้วยความที่มันไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้ด้วย ก็โดนพูดไม่ดี ก็ไล่ๆ ทำส่งๆ ผึ้งต้องพาแม่ไปเอง เราแต่งตัวเรียบร้อยทั่วไป เขากลับปฏิบัติอีกแบบหนึ่ง และความที่เราเคยทำแอร์โฮสเตสมาก่อน
ข้าราชการผึ้งไม่ได้มีปัญหาอะไรด้วยนะ แต่ราชการต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงานอะไรหลายๆ อย่างเยอะเลย เพราะเราก็รู้ว่าข้าราชการโดนกดทับกันมาหลายต่อ เพราะมันเป็นบนลงล่าง
ประชาชนดันเป็นฐานที่เตี้ยสุด ล่างสุด รากหญ้า ถูกกระทำแบบระดับล่างจริงๆ เหมือนนำสิ่งที่โดนกดมามาลงกับประชาชนอย่างเดียว และเป็นประชาชนธรรมดาด้วยนะ ถ้าเป็นประชาชนที่มี privilege หรือมีผลกับความรู้สึกของนายหรือหน้าที่ จะปฎิบัติอีกแบบ แบบที่ดีกว่าเรา

ถ้ามองบนพื้นฐานของคนเท่ากัน ก็คนเหมือนกันแท้ๆ ข้าราชการต้องปฏิบัติต่อประชาชนแบบที่ดีเท่ากันทุกคน ทำไมคุณ2 มาตรฐาน เหลื่อมล้ำ
เราอาจเคยชินกับการเป็นผู้ถูกกดทับโดยธรรมชาติ รู้สึกว่า เรื่องพวกนี้อย่าไปสู้เลย อย่าไปทำอะไรเรื่องพวกนี้เลยเรามันคนตัวเล็กๆ ในสังคมแค่นั้นเอง ทำไมเราเห็นบางคนแม่งรวยเอาๆ ทำไมเสียงมันถึงดังกว่า มันไม่ใช่คนเหมือนเราเหรอวะ ทำไมมันถึงได้อภิสิทธ์มากกว่า ทำไมถึงได้รับการปฏิบัติไม่เหมือนกับเรา
เคยฟังคำของ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พูดเอาไว้ ถ้าเราคนทั้งประเทศมายืนเรียงกัน คนที่อยู่ตรงกลางมีรายได้ 7,000 กว่าบาท นั่นแปลว่า คนครึ่งประเทศมีรายได้ไม่ถึง 10,000 บาทต่อเดือน
เขาจะขยันขนาดไหนกัน (โปรดอ่านด้วยสำเนียงแร็ปอีสานเพื่ออรรถรสในการอ่านที่บันเทิงขึ้น)
ทำโอทีสองเท่ายังไม่พอที่จะจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าแก๊ส ค่าอะไรต่างๆ พื้นฐานในชีวิตที่มันขึ้นราคาในทุกวันนี้แบบไม่กู้เงินนอกระบบ หนี้ครัวเรือนของประชาชนไม่ได้ไปซื้อบ้านซื้อรถ เขาเอามาจ่ายค่ากินค่าใช้ เงินไปโรงเรียน ลูกเปิดเทอมก็ค่าเทอมอีก ค่าเดินทางอีก เขาเอามาใช้จ่ายเพื่อมีชีวิตอยู่รอดในประเทศนี้
ยิ่งราคาขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า ขึ้นราคาจนงงว่าขึ้นขนาดนี้เลยเหรอ แพงมาก

โง่ จน เจ็บ เพราะไม่ขยัน คิดยังไงกับคำนี้
เกลียด … เกลียดแบบขออนุญาตคำหยาบนะ เกลียดฉิบหายเลยคำนี้ มาดูแถวบ้านผึ้งก่อน มาดูความเป็นจริงก่อน พี่น้องแรงงานทำงานควงกะจนไม่รู้จะควงยังไงแล้ว ชีวิตคนเราตื่นตั้งแต่ตีห้าหกโมง ออกไปทำงาน เลิกงานปกติของคนอื่นห้าหกโมง ของเราไม่ มีแรงเหลือ ควงไปอีกสักหน่อย เลิกงานสักสี่ทุ่ม กลับถึงบ้านเที่ยงคืน แปดโมงเช้าเริ่มใหม่
เอ้อ! ชีวิตต้องทำงานเป็นเครื่องจักรขนาดนั้นยังบอกไม่ขยันอีก ยิ่งถ้าเห็นเขากินเหล้าก็จับผิดอีกว่า มัวแต่กินเหล้าจะไปมีเงินได้ยังไง แต่ละวันเขาทำงานกี่ชั่วโมง ทำงานหนักขนาดนี้ เขาจะพักผ่อน มีความสุขบ้างที่ไหนได้ นั่งดูซีรีส์หรือ เน็ตฟลิกซ์หรือ ไม่มีทาง
คนที่มีเงินมากกว่า ชนชั้นกลางที่พอดูแลตนเองได้ เขามีวันหยุดไปพักผ่อน ขับรถออกต่างจังหวัดได้ ส่วนพี่น้องแรงงานผึ้ง บ้านโล่งเลย ไม่อยู่เหมือนกัน วันหยุดแบบนี้ทำงานสิ ค่าแรง 2 เท่า ไปเอาโอที นี่คือวันหยุดของเขา และมันก็วนลูปอยู่แบบนี้ จะไปเอาความหวังในชีวิตไหนมาได้
ถ้าโครงสร้างสังคมประเทศนี้มันทำให้คนใช้ชีวิตง่ายกว่านี้ ถ้าประชาชนมีกลไกสักอย่างที่จะทำให้เขาเรียกร้องได้ ค่าแรงแค่เนี้ย คุณเรียกมันว่าค่าแรงขั้นต่ำได้ยังไง แล้วคุณปล่อยให้คำว่าค่าแรงขั้นต่ำมาเป็นเกมการเมืองได้ยังไง ทำไมไม่ใส่กลไกแก้ปัญหาให้ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้น เพราะข้าวของแพงขึ้น ตลาดโตขึ้น GDP สูงขึ้น แล้วคนที่ทำให้ GDP สูงขึ้น ทำไมมีคุณภาพชีวิตแย่เหมือนเดิมหรือแย่ลงไปกว่าเดิม มันเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นได้ยังไงในประเทศนี้
เหมือนพี่น้องแรงงานผลิตเงินขึ้นมา แต่มันไม่มาหาเขา มันลอยไปในอากาศ?
มันไม่ได้หายไปไหน มันไปเป็นผลประกอบการของเจ้าของกิจการที่รวยเอารวยเอา แต่คนที่ทำงานให้กลับ จนเอาจนเอา เขา (เจ้าของกิจการ) รู้เรื่องค่าแรงพวกเราหมด
เราจน พอเราจนทรัพย์สิน เราก็จนโอกาสในการขยับฐานะ ทำให้คนจนเรียนน้อย เรียนน้อยความรู้วุฒิการศึกษาก็ไม่ได้ ขยันแค่ไหนก็ไม่รวย ทำงานหนักขนาดไหนก็ไม่ได้รวยขึ้น ไม่ได้เข้าใกล้คำว่าคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
และที่ซ้ำเติมเข้าไปอีกคือ ประเทศนี้ไม่มีกลไกให้ผู้ประกอบการต้องเกรงใจแรงงานเลย สหภาพการรวมกลุ่ม ความเข้มแข็งของการต่อรองของแรงงานมันหายไป แรงงานโดนทำอะไรก็ได้ นายจ้างอยากลดรายได้ตามใจตามสบาย ลูกจ้างก็ก้มหน้ารับกรรมไป เช่น ล่าสุดเพิ่งไปรับเรื่องมา พี่น้องแรงงานจากฝั่งพระสมุทรเจดีย์อยู่ในภาวะกึ่งจะโดนลอยแพ นายจ้างเขาใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเลี่ยง ทำให้ไม่สามารถเอาผิดนายจ้างทางกฎหมายได้จ่ายๆ เพราะเขายังจ่าย 2,000-3,000 บาท แต่ไม่ได้บอกเลิกจ้างนะ ค่าแรงแค่นี้ใครจะไปกินข้าวพอ มันนิดเดียวเอง แค่ยังถือว่าจ่ายในทางกฎหมายนะ

และด้วยข้ออ้างว่าขาดทุนจากโควิด แต่เปล่าเลย หลังๆ มาเริ่มไม่จ่ายค่าไฟ เครื่องจักรก็เดินไม่ได้ พนักงานก็เข้าทำงานไม่ได้ รายได้ลูกจ้างก็หาย เขาทนกับค่าแรงแค่นี้มา 3 ปีแล้ว เลยเป็นเหตุให้พี่น้องแรงงานโรงงานนี้ไปกรมสวัสดิการแรงงาน แต่เรื่องก็เดินช้า แล้วถ้าเจ้าของหนีออกนอกประเทศล่ะ เพราะเจ้าของเป็นต่างชาติอีก มันยากมากที่แรงงานจะเรียกร้องปกป้องตนเอง มีอำนาจในการต่อรองได้ เพราะกฎหมายมันมีช่องโหว่เสมอ ไม่เคยปกป้องพี่น้องแรงงาน
เช่น วันหนึ่งเราทำงานเท่านี้ แต่มีคนออกจากงานไปเราเลยต้องทำงานเพิ่ม ต้องไปทำส่วนของตนเองด้วย และส่วนของคนที่ออกไปด้วย แต่ไม่ได้เงินเพิ่ม สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในช่วงโควิด และข้ออ้างของบริษัทก็คือวิกฤตโควิด ต้องสู้ไปด้วยกันเลยเอางานมาถมไว้ที่คนคนเดียว แต่งานที่ถูกถมมาเพิ่มไม่ถูกคำนวนเป็นรายได้เพิ่มให้ลูกจ้าง เท่ากับว่าขายแรงงานเกินกว่ารายได้ที่แรงงานต้องได้รับ ในขณะที่ผู้ประกอบการได้กำไรเหมือนเดิม แต่ได้งานจากคนหนึ่งคนมากขึ้น นายจ้างไม่ได้เสียอะไรเลย มีแต่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ”
เรื่องแรงงานคุณคิดจะแก้ยังไง
เราเตรียม พ.ร.บ.ใหม่ เรื่องแรงงาน พร้อมใส่ พร้อมบวกทันทีเมื่อเข้าสภา เมื่อตั้งรัฐบาลได้เรื่องนี้เข้าสภาแน่นอน เพราะพี่น้องเราเดือดร้อนจนอยู่ไม่ได้แล้ว มันเป็นเรื่องที่รอไม่ได้
อย่างที่เล่าเรื่องพี่น้องแรงงานพระสมุทรเจดีย์ เขาได้รับค่าแรงแค่ 2,000-3,000 บาท ตอนนี้เริ่มไม่จ่าย กฎหมายไม่คุ้มครองแรงงานและยังทำลายไม่ให้เกิดสหภาพมาต่อรองกับนายจ้างได้โดยง่าย เรื่องแรงงานเลยเป็นเรื่องที่ต้องรีบแก้ไขทันที ตอนนี้เราก็ช่วยประสานผู้ว่าฯ (แต่งตั้ง) ให้เร่งรัดกระบวนการเรื่องนี้
การกระจายอำนาจในมุมมองของคุณคืออะไร
การกระจายอำนาจคือด้านตรงข้ามของกระจุกอำนาจ กระจุกอำนาจคือการรัฐประหารเป็น 10 กว่ารอบ ในช่วงเวลาไม่กี่ 10 ปี ยังไม่ถึง 100 ปี ด้วยซ้ำ เฉลี่ย 8 ปี ต้องมีรัฐประหารเกิดขึ้น
ตอนเด็กๆ เรารู้สึกเป็นเรื่องธรรมดาที่วันหนึ่งมีใครเข็นรถถังออกมาแล้วก็แถลงข่าวบอกว่า นี่คือการรักษาความสงบ เรียบร้อย เพื่อความมั่นคงของประเทศ สรุปแล้วเราให้ความหมายความมั่นคงว่าอะไร
อำนาจการสั่งการต่างๆ โครงการในจังหวัดใดๆ ก็ตามต้องใช้ลายเซ็นมหาดไทยเลยเหรอ ต้องใช้ลายเซ็นของรัฐมนตรีหรือบอร์ดบริหารของประเทศ แล้วกี่ตำบลในประเทศที่มีล่ะ ถ้าทุกที่อยากมีโครงการหรืออยากทำอะไรสักอย่างในตำบลตนเองล่ะ เซ็นทันเหรอ
ทำไมไม่ให้เขาจัดการตนเอง บริหารตนเองสิว่าอยากทำอะไร ไม่ใช่ต้องศิโรราบต่อผู้มีอำนาจ ต่อกลุ่มผู้มีอำนาจชนชั้นนำในประเทศอย่างเดียว เพราะถ้าแนวคิดของคนในพื้นที่ไม่ได้สอดคล้องกับแนวคิดของชนชั้นนำ ก็จะไม่ถูกอนุมัติ
ถ้าคุณลองโดนปิดตาแล้วไปปล่อยสักที่ในญี่ปุ่น คุณไม่รู้เลยว่าอยู่ที่ไหน เพราะเขามีโครงสร้างพื้นฐานให้ทุกจังหวัดอย่างเท่าเทียม แต่ถ้าปิดตาแล้วเปิดมาเห็นรถไฟฟ้า รู้เลยกรุงเทพฯ ไม่ก็นนทบุรี ไม่ก็สมุทรปราการ เพราะทุกอย่างมันกระจุกอยู่แค่ตรงนี้เท่านั้น

การกระจายอำนาจจะช่วยแก้ความลำบากของคนต่างจังหวัดได้อย่างไร
เขาอยากดูแลท้องถิ่นและคนในท้องถิ่นของเขาให้ดีมากแค่ไหน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาแสดงตัวว่าเขาไม่ได้เห็นด้วยกับชนชั้นนำ ไม่เซ็นอนุมัติให้ก็จบ นี่คือสาเหตุว่าประเทศไทยทำไมไม่ก้าวหน้า ไม่พัฒนาสักที เพราะการกระจายอำนาจมันมีปัญหามาเป็น 100 ปี เป็นปัญหานานกว่าประชาธิปไตยเสียด้วยซ้ำ เราไม่เคยทำได้
การกระจายอำนาจสำคัญ ผึ้งเข้าใจเรื่องนี้เมื่อผึ้งได้ฟังแนวคิดของพรรคก้าวไกล โดยคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล ถ้าเรามีการกระจายอำนาจ อุดรธานี อุบลราชธานี จะมีงานดีๆ ให้ทำ
มันมีคนที่อยากพัฒนาประเทศให้มันดีกว่านี้ที่อุดรธานี อุบลราชธานี จังหวัดอื่นๆ ก็เช่นกัน และคุณพ่อคุณแม่ผึ้งคงไม่อยากหนีออกจากครอบครัว จากคนที่ตนเองรักมาทำงานที่นี่ สมุทรปราการมาทำไม ต้องอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว แต่เขาจำเป็นต้องทำ เพราะที่นั่นไม่มีงานอะไร เพราะทุกความเจริญกระจุกอยู่แค่กรุงเทพฯ กระจุกอยู่สมุทรปราการเพราะมันอยู่รอบกรุงเทพฯ และเพราะเงินทั้งหมดของประเทศอยู่ที่นี่ ทรัพยากรมหาศาล ทุกอย่างที่มีค่า อยู่ที่นี่
ส.ส.เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ หรือทำเรื่องกฎหมายในสภา หลายคนยังเข้าใจผิดว่า ส.ส มีหน้าที่จัดทำบริการสาธารณะในจังหวัด ทั้งๆ เป็นเรื่องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (จังหวัดสมุทรปราการก็เป็นท้องถิ่น) อยากอธิบายอย่างไร
สิ่งนี้ไม่ผิดเลยที่หลายๆ คนจะเข้าใจผิด ผึ้งขอถามหน่อยเรื่องนี้มีสอนในโรงเรียนไหมคะ ไม่มี ถ้าไม่มีสอนอยู่ในโรงเรียนอย่าไปว่าเขา เพราะเขาไม่ผิด แต่ระบบการศึกษาต่างหากที่ไม่สอนเรื่องพวกนี้ อยู่ดีๆ ใครจะไปรู้ว่า ควันพิษออกมาแบบนี้ต้องโทรหากรมควบคุมมลพิษ ให้เขามาดูแล ใครจะไปรู้ ส่วนมากประชาชนก็โทรบอก อบต. บอกเทศบาล เพราะมันอยู่ใกล้ตัวเขา และเป็นตัวแทนระดับแรกที่เขาเรียกคุณเข้าไปทำงาน ฉะนั้น เขาจะเดินเข้าไปหาคุณ
ส.ส. ก็เลือกมาเหมือนกัน ในเมื่อเราเลือกมาเหมือนกัน เห็นภาพในทีวีบ่อยกว่าด้วย ดูเหมือนทำอะไรได้มากกว่า ทำอะไรในการเมืองภาพใหญ่ได้ด้วย ก็น่าจะทำเรื่องนี้เหมือนกัน ถนนพัง ไฟไม่ติด ขยะไม่เก็บ น้ำไม่ไหล เราต้องสั่งการให้เขาแก้ไขให้เราได้ มันเป็นภาพจำของสังคม ไม่ถูกทำการปรับปรุงความเข้าใจให้พี่น้องประชาชน
ต้องเปลี่ยนโครงสร้างทางความคิดให้ประชาชนเข้าใจได้ง่ายและถูกต้อง เพราะไม่งั้นจะมีบางคนใช้โอกาสแบบนี้สร้างรากฐานทางการเมืองของตนเองได้ง่ายๆ ด้วยเงิน กลายเป็นใครอยู่ใกล้ ส.ส. อยู่ใกล้ผู้มีอำนาจทางการเมืองมาก ก็จะได้รับสิทธิพิเศษ เกิดเป็นเครือข่าย ทำให้ได้รับสิทธิต่างๆ ไม่เท่ากันและไม่ทั่วถึง
บางบ้านได้รับข้าวสาร บางบ้านไม่ได้รับเลยต้องไปคุยกับบ้านนั้นบ้านนี้ เพื่อให้ได้รับสิทธิต่างๆ ทั้งๆ ที่ค่าเฉลี่ยทรัพยากรบ้านเราสามารถกระจายได้ทั่วถึง ทุกคน ทุกบ้าน โดยไม่ต้องมีระบบอุปถัมภ์ มันสามารถทำได้ถ้าไม่ได้ถูกใช้งบไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย โดยไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน มันทำได้แน่นอน
เมื่อภาพจำเป็นแบบนั้นและไม่ถูกแก้ไขมันก็จะกลายเป็นความเข้าใจผิดต่อสังคมว่า ส.ส.ต้องพึ่งพาได้ ต้องมีเงิน จะต้องแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันให้พี่น้องประชาชนได้แบบที่ ส.ส. ควักเงินแล้วจ่ายให้เองได้ มันเลยไปส่งเสริมระบบอุปถัมภ์แทน และประชาชนจะกลายเป็นผู้อยู่ในระบบอุปถัมภ์ เป็นผู้รับบทอุปถัมภ์โดยปริยาย

สิ่งที่ยากสุดในการทำงานการเมืองสำหรับผึ้งคือ จะทำยังไงให้พี่น้องประชาชนปลดแอกจากการเป็นผู้รับอุปถัมภ์ ให้เขารู้ถึงอำนาจของตนเอง ประชาชนเลือกตั้งมา ต้องเป็นการเลือกมาเพื่อใช้งาน ให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจใหม่ว่าเขาคือผู้มีอำนาจเต็ม ทั้งในการสั่งการหรือ คุณรวมกลุ่มกันเอาคนที่เลือกมาออกจากตำแหน่งก็ได้ ไม่ใช่ผู้รอรับการช่วยเหลืออีกต่อไป เขาต้องเป็นผู้มีอำนาจ
นักโทษการเมืองสำหรับคุณคืออะไร
นักโทษการเมืองคือคนที่คิดไม่ตรงกับผู้มีอำนาจ เขาคือคนที่ไม่ได้เป็นเด็กดีของผู้มีอำนาจ และส่งเสียเรียกร้องอย่างกล้าหาญออกมา เขาคือคนที่ไม่ได้เชื่องต่อระบอบอำนาจนิยมของประเทศไทย คนคนนั้นมีจิตวิญญาณของการเป็นนักโทษทางการเมือง และถูกกระทำ
เมื่อนิติสงครามมันทำงาน เมื่อกฎหมายเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ มันก็ใช้กันสุรุ่ยสุร่าย มียุคไหนสมัยไหนของไทยที่มีคนโดน 112 กันระนาวขนาดนี้บ้าง มัน 200 เจียนจะ 300 กว่าคดี ตอนนี้น่าจะถึงแล้วด้วย มันเยอะมาก คือผึ้งเคยไปร่วมสังเกตการณ์การประกันตัว เก็ท โสภณ รอบหนึ่ง ก็ไป สน.สำราญราษฎร์ แล้วไป บช.ปส. ต่อ (กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด) เจ้าหน้าที่ทำงานหนักแน่นขันแข็งมาก
คำถามคือตำรวจขยันขันแข็งกับคดีฆาตกรรมไหม ขยันขันแข็งแบบนี้กับคดีกราดยิงไหม อะไรที่มันมีผลต่อประชาชน เราขยันขันแข็งขนาดนี้ไหม แต่นี่คือการแสดงความคิดเห็น นี่คือการพูดออกเสียงใช้เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน คุณนำกำลังเจ้าหน้าที่จัดเต็มเลย ล้อมจับเขา ยืนล้อม สน. กันยิ่งใหญ่เลย
นี่คือภาพของความร้ายแรงยิ่งกว่าฆ่าคนตายเลยเหรอ 112 กลายเป็นสิ่งที่ร้ายแรงกว่าการฆ่าคน
ทำไมต้องแก้ 112
ทำไมต้องแก้ 112 ย้อนกลับไปที่นิยามความมั่นคงของบ้านเราคืออะไร สำหรับผึ้ง ความมั่นคงของประเทศคือความมั่นคงของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ความมั่นคงแห่งรัฐ หรืออะไรก็ตามที่นามธรรมมากๆ
มันไม่มีอะไรโหดร้ายไปมากกว่าการจัดสรรภาษีมาเป็นงบประมาณอย่างไม่เป็นธรรมดั่งทุกวันนี้
ถ้ามองในแง่คนมีอำนาจในการออกกฎหมาย มีอำนาจในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตทุกคนให้ดีกว่านี้ได้ คุณเห็นปัญหาทุกอย่างเหมือนที่เราเห็น แต่คุณเลือกที่จะทำอะไรแบบไหนกับใคร เพราะเขาเองก็เป็นกลุ่มคนที่ได้รับผลประโยชน์จากนายทุนที่เค้นประสิทธิภาพการทำงานของพี่น้องประชาชนแรงงานไป เพียงจ่ายแค่ให้อยู่รอดไปวันๆ โดยไม่เคยดูแลอะไรเขาเลย มันคือการร่วมมือกันทำระหว่างเอกชนและผู้มีอำนาจ เพราะเอกชนต้องหากลุ่มอุปถัมภ์ของตนเองที่จะมารับรองได้ว่า กูทำแบบนี้ กดขี่แบบนี้แล้วจะไม่ถูกลงโทษโดยกฎหมาย

จะไม่ถูกเอาผิดเอาคืนโดยกฎหมายหรืออะไรก็ตาม ก็เลยเป็นกลุ่มก้อนผู้มีอำนาจในสังคมที่ส่งเสริมกันและอุปถัมภ์กันแค่กลุ่มก้อนเล็กๆ แล้วทิ้งพี่น้องประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ขอนับเลยว่าเป็น 99.99% ให้ต้องรับผลกระทบจากกลุ่มก้อนอำนาจที่กดขี่แรงงานอยู่ในสังคมทุกวันนี้
อย่างน้อยที่สุด ถ้าบอกว่าตนเองเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากกลุ่มก้อนอำนาจนี้ ก็เป็นผู้ได้รับผลกระทบอยู่ดี ต้องขายศักดิ์ศรีของตนเอง เพื่อสยบยอมภายใต้อำนาจอยุติธรรมที่มันเกิดขึ้นในประเทศนี้ คุณอาจไม่ได้เห็นด้วยกับเขาทุกอย่าง แต่คุณจำเป็นต้องตามเขา เพราะคุณอยู่ภายใต้ระบบของประเทศนี้
แล้วถ้ามีคนตั้งคำถาม คุณต้องมีคำตอบ ไม่ใช่การปิดปากประชาชนไม่ให้พูด ไม่ให้ถาม
อย่างน้อยที่สุดตอนนี้ประชาชนอาจไม่ได้เห็นด้วยทุกคนว่าต้องแก้มาตรานี้ แต่เชื่อว่ามองเห็นปัญหานี้ และเราจะนำเรื่องนี้มาถกหาทางแก้ไขกันในสภา ภายใต้การนำของพรรคก้าวไกลอย่างแน่นอน
อะไรจะช่วยแก้ปัญหาการกระจายอำนาจ
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน พรรคก้าวไกลมีนโยบายว่าเราไม่เอารัฐธรรมนูญ 60 เพราะมันคือมรดก คสช. คือลูกที่ คสช.คลอดไว้ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากคำสั่ง คสช. ไม่มีประชาชนร่วมเขียนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แล้วทำไมรัฐธรรมนูญต้องอ่านเข้าใจยาก มีแนบท้ายสอดไส้เยอะไปหมด พี่น้องประชาชนเข้าใจจริงๆ หรือเปล่า ทำไมต้องเป็นภาษาที่ประชาชนคนธรรมดาอ่านแล้วไม่เข้าใจ
แตกต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศ มีไม่กี่หน้า เข้าใจง่าย เพื่อทำให้ทุกคนอ่านแล้วรู้ว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของตนคืออะไร เราทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน เป็นระเบียบที่ตกลงเพื่ออยู่ด้วยกัน มันจึงต้องอ่านเข้าใจง่าย แต่รัฐธรรมนูญฉบับ 60 เป็นในทางตรงข้างหมด
มันจึงต้องร่างฉบับใหม่ โดย สสร. ที่มาจากการเลือกของพี่น้องประชาชน 100% อยู่ในไทม์ไลน์ที่พรรคก้าวไกลต้องทำสำเร็จให้ได้ภายใน 4 ปี ต้องมีใช้ก่อนปี 2570 ให้ได้
มองอนาคตประชาธิปไตยในบ้านเราอย่างไร
ถ้าท้องถิ่นมีอำนาจ มันเหมือนกับดอกไม้ทุกดอกจะผลัดกันเบ่งบานออกมาจากทุกพื้นที่ นี่คือคำที่เราใช้คุยกันในพรรคก้าวไกล
ศักยภาพที่หลบซ่อนอยู่และพร้อมจะปลดแอกมันจะบานสะพรั่งทั่วประเทศ ผึ้งเชื่อแบบนี้

นักการเมืองซื้อเสียง คนต่างจังหวัดขายเสียง คุณเห็นด้วยไหม ทำอย่างไรให้หมดไป
เราต้องเชื่อมั่นในการตัดสินใจของประชาชน ยอมรับผล ทำหน้าที่ตามหลักการประชาธิปไตย เป็นผู้รับใช้ประชาชน ถ้าเขาพอใจเขาก็เลือกเรา ถ้าเขาพอใจคนอื่นก็ต้องยอมรับว่าเรายังทำงานได้ไม่ดีพอ เรียนรู้และถอดบทเรียน ทำงานให้หนักแน่นให้สมกับความเชื่อใจของพี่น้องประชาชน เรียนรู้อยู่เสมอ และเคารพประชาชนให้มาก เปิดใจ เปิดการเรียนรู้ให้กว้าง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน
ตอนนี้สัดส่วนงบประมาณอยู่ที่ส่วนกลาง 70 ท้องถิ่น 30 แต่ใน ร่างเลือกตั้งผู้ว่าทั่วประเทศ ที่ The Voters กำลังล่ารายชื่ออยู่ กลับกันเป็น ท้องถิ่น 70 ส่วนกลาง 30 มีสภาพลเมืองคอยตรวจสอบ คุณมีความเห็นอย่างไร
การกระจายอำนาจ เรามองถึงการกระจายทั้งอำนาจในการตัดสินใจ เงิน และกระจายโอกาส เช่น ถ้าเราไปเจอเด็กคนหนึ่งคุณภาพชีวิตแย่มาก เราต้องไปที่ใคร พม.หรือ (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) เทศบาลหรือ บางทีเทศบาลมีโครงการนี้จริงแต่ไม่มีงบ กระทรวงไม่ได้จัดสรรงบมา มีแต่งานมาให้ทำ แต่ไม่มีงบให้มาดำเนินการให้ ทั้งๆ ที่กฎหมายเขียนไว้ว่าต้องกระจายงบให้ท้องถิ่น ทุกวันนี้แค่ 28% ยังไม่ถึง มันน้อยมาก
กลายเป็นว่าเทศบาลกับงบประมาณมันไม่พอที่จะพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐาน หรือว่าคิดริเริ่มทำอะไรใหม่ๆขึ้ นมา ต่อให้มีงบประมาณมาให้ ก็จะไปติดที่กรอบอำนาจ อำนาจของท้องถิ่นมีอยู่อย่างจำกัดมากๆ จำกัดแบบที่ว่าเขียนกฎหมายบังคับท้องถิ่นว่าทำอะไรได้ ทำนอกเหนือจากนี้ไม่ได้ แล้วถ้ามันไม่ระบุคำนี้ลงไปล่ะ นายกหรือคนทำงานต้องตีความว่ายังไง ต้องตีความเยอะ ใช้ดุลยพินิจเยอะ ต้องเกรงใจผู้มีอำนาจ ชนชั้นนำในสังคม ถ้าละเมิดก็จะมีบทลงโทษตามมา
แม้มีการเลือกตั้ง ผ่านการเลือกจากประชาชนขึ้นมา มันก็กลายเป็นการแช่แข็งท้องถิ่น เพราะสุดท้ายแล้วติดที่กรอบอำนาจของชนชั้นนำ หรือถ้าปีนี้ให้ไปแล้วใช้ไม่หมด ปีหน้าโดนลด เลยต้องทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกปี เพื่อไม่ให้ถูกตัดงบประมาณ ตัวอย่างที่ชัดก็อย่างทุบถนนซ้ำวนไป
ปัญหาหลายๆ อย่างมันเลยเกี่ยงกัน ผลักกันไปมา ไม่ชัดเจน แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไม่ได้ แม้ประชาชนจะอยากได้หรืออยากทำก็ติดอยู่ที่กรอบอำนาจเดิม ชนชั้นเดิมๆ
ทุกปัญหาต้องการกระจายอำนาจ เพราะอย่างน้อยที่สุด หากเรารู้สึกมีอำนาจทางการเมือง เราจะกล้าเรียกร้องในประเด็นความเดือนร้อนของเรา คุณเห็นด้วยไหม
ถ้าเราส่งเสริมท้องถิ่น จัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่นและคุณภาพชีวิตของประชาชน เราจะได้เห็นว่าทุกพื้นที่ของประเทศไทยมีความน่าสนใจ จะที่เที่ยว ผลิตภัณฑ์ อาหาร วัฒนธรรมต่างๆ มันจะบานสะพรั่ง

คุณคิดว่าการกระจายอำนาจแก้ปัญหาในสมุทรปราการได้อย่างไร
คนอาจคิดว่าอำนาจในท้องถิ่น เฮ้ย มันก็มีอยู่เยอะไม่ใช่เหรอ ไปนึกถึงภาพเครือข่ายอิทธิพลท้องถิ่น เครือข่ายชนชั้นนำในท้องถิ่น แต่ไม่ใช่ การกระจายอำนาจจะไปพัฒนาอีกหลายอย่างในสมุทรปราการ เชื่อว่าสมุทรปราการพร้อมเปลี่ยนเพราะเราเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้ง 8 เขตในสมุทรปราการ มี 4 แสนกว่าเสียงที่อยู่ 10 กว่าล้านเสียงที่เลือกปาร์ตีลิสต์พรรคก้าวไกล
เทียบเป็นสัดส่วนถือว่าคะแนนจากบ้านเรามันเยอะนะ ประชาชนของเราพร้อมและต้องการความเปลี่ยนแปลง ดังนั้น อะไรคือสิ่งที่จะสามารถทำได้ดีที่สุด
ส.ส.ทำงานนิติบัญญัติ การเมืองภาพใหญ่ แต่ท้องถิ่นต้องเป็นที่พึ่งใกล้ตัวเขาให้ได้มากที่สุด และกลุ่มอำนาจเดิมต้องรู้ตัว ปรับตัวให้อยู่ในระบอบระเบียบ รับใช้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ เพราะถ้ายังทำตัวเหมือนเดิมประชาชนจะจัดการพวกคุณให้รู้เรื่องแน่นอน
เมื่อเราปลดแอกให้ท้องถิ่นไม่ต้องอยู่ภายใต้มหาดไทยด้วยนะ ไม่ขึ้นตรงจากคนของศูนย์กลางที่ใครไม่รู้แต่งตั้งมา ทีนี้ท้องถิ่นไปได้ไกล พัฒนาได้เต็มที่ และการเลือกตั้งที่ผ่านมามันพิสูจน์แล้วว่าประชาชนพร้อมเปลี่ยนแปลง
เรามีเพื่อนจากสมุทรปราการหลายคน ซึ่งแต่ละคนแชร์ให้ฟังถึงคุณภาพชีวิตในสมุทรปราการ จนถึงขั้นที่ตั้งสมมติฐานว่า ประชาชนชาวสมุทรปราการได้รับสารเคมี มลพิษและมลภาวะจากอุตสาหกรรมต่างๆ มากเกินจนเกิดผลกระทบต่อร่างกายหรือไม่ และนี่เป็นจังหวัดปริมณฑลที่ขาดการดูแลจากรัฐ เลยส่งผลต่อภาพลักษณ์ทั้งคนและจังหวัดสมุทรปราการ
เอาจริงๆ ถ้าคำนวนจากสารพัดสารพิษ มลพิษเนี่ย เปรียบเทียบได้ว่าคนสมุทรปราการมีระเบิดอยู่ใต้บ้านตารางกิโลเมตรละ 1 ลูก ที่พร้อมจะทำงานทุกเมื่อ เพราะโรงงานอุตสาหกรรมเยอะมาก ซ้ำเติมชาวสมุทรปราการ
ด้วยคำสั่ง คสช.มาตรา 44 เพื่อนอนุมัติให้โรงงานอุตสาหกรรมไม่ต้องผ่านมาตรฐาน มันเลยมีบ่อขยะ ระเบิดที พี่น้องประชาชนเดือดร้อน อพยพกันหนักหนาสาหัส ตี 3 ตี 4 ชาวสมุทรปราการต้องหาทางหนีเอาชีวิตรอดกัน
แล้วมันมีอีกกี่โรงงานที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ ชีวิตพี่น้องประชาชนสมุทรปราการตอนนี้แขวนอยู่บนความเสี่ยงมาก
รัฐให้อะไรตอบแทนชาวสมุทรปราการที่รับความเสี่ยง ความมั่นคง และสุขภาพ สมุทรปราการเรามีทั้งเสียงเครื่องบินที่ต้อนรับคนเข้าออกประเทศ เพราะเราเมืองท่องเที่ยว เสียงเครื่องบินดังรบกวนบ้านพี่น้องประชาชนตลอดเวลา ประชาชนได้อะไร ถ้าทุกอย่างถูกตัดสินใจจากรัฐส่วนกลาง แล้วดันเป็นรัฐที่ส่วนมากมีผู้นำประเทศมาจากรัฐประหาร เป็นคนบริหารงานประเทศไม่เป็น จะพากันไปยังไง
เหมือนประชาชนไทยตอนนี้ตกเหวไปแล้วนะ ต้องกระจายอำนาจได้แล้ว
เมื่อเมืองมีการขยาย กฎหมายต้องบังคับให้คนกับโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกันได้ ทำไมต่างประเทศจัดการมลพิษระบบปิดได้ ทำไมบ้านเราทำไม่ได้ ทำให้มลพิษส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประชาชนแบบนี้ได้
เพราะนโยบายขยายเมืองกระจุกความเจริญไว้กรุงเทพฯ คนก็ต้องเข้ามาทำงาน ต้องมีคนอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม นโยบายรัฐต้องการแรงงานสร้างเมือง นโยบายรัฐก็ต้องรับผิดชอบแรงงานที่เอาเขามาสร้างความเจริญด้วย
เพราะว่าจริงๆ เขตของผึ้งไม่ใช่เขตอุตสาหกรรมหนาแน่นนะ แต่เป็นเขตที่ทำอุตสาหกรรมมานานก่อนจะมีนิคม แต่ก็มักมีคำอ้างว่าอุตสาหกรรมเกิดก่อน ชุมชนมาทีหลัง แต่ผึ้งรู้สึกว่าการอ้างแบบนี้มันไม่ได้
อย่างสนามกีฬาที่เรานั่งคุยกันตอนนี้ โครงสร้างนี้ใช้งบประมาณเท่าไหร่ในการทำ น่าเสียดายมาก นี่คือสนามกีฬาที่ถูกปรับปรุงเป็นจักรยานวิบาก แต่สิ่งที่เราเห็นแค่ที่นี่ขาดการดูแลจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ปล่อยทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ กลายเป็นว่าพื้นที่ซึ่งควรถูกใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องในชุมชน ไม่สามารถใช้งาน และไม่สามารถใช้งานได้จริง ข้างสนามกีฬาคือชุมชนที่ตั้งอยู่ชิดกำแพงโรงฟอกหนัง ลองสูดหายใจดูนี่คือกลิ่นฟอกหนัง และเป็นกลิ่นที่เราโตมาตั้งแต่เด็กๆ

จะปรับปรุงพัฒนาท้องถิ่นก็ไม่ง่าย หน้างานและงบประมาณที่ทับซ้อนมันทำให้ท้องถิ่นพัฒนาไปได้ยาก ติดคอขวดขวางการพัฒนาเต็มไปหมด แล้วเมื่อไหร่จะพัฒนา เมื่อไหร่จะแก้ปัญหาได้ เรื่องเล็กๆ ยังต้องรอสภา รอส่วนกลาง ปาไปครึ่งปี พี่น้องประชาชนต้องอยู่กับความเดือดร้อนแบบนั้นนานขนาดไหน แล้วปัญหามันไม่ได้มีแค่เรื่องเดียว ความเสื่อมมันเกิดขึ้นทุกวัน
จะแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนทันได้ยังไงถ้าระบบรัฐราชการใหญ่เทอะทะ มันแก้ปัญหาไม่ทัน คนเดินนำหน้า ระบบบริหารประเทศล้าหลัง อย่าให้พี่น้องประชาชนต้องทนกับความเดือดร้อนนานแบบนี้
การเมืองอยู่ในทุกเรื่อง คุณเห็นด้วยไหม
การเมืองอยู่ในทุกเรื่อง เห็นด้วยมากๆ ถ้าการเมืองดี เรามีความฝัน เราจะเห็นโอกาสของทุกอย่าง คุณจะมีพลังในการใช้ชีวิต มีอากาศสะอาด คุณเดินบนถนนที่ดี คมนาคมที่ดีทำให้นั่งไปโรงเรียนได้อย่างมีความสุข
ไม่ต้องตื่นตี 5 เพื่อเดินทางไปเรียนไปทำงาน เลิกงาน 5 โมง เช่น ลาซาล 6 โมงเย็นประชาชนราวๆ 50 คน ที่ต้องยืนรอต่อแถวขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ นั่นเขาเสียเวลาในการทำอย่างอื่นไป จะพักผ่อนหรือใช้หาเงินเพิ่ม เป็นเวลาที่เขาต้องมารอระบบขนส่งสาธารณะที่ควรต้องส่งเสริมคุณภาพชีวิตเขามากกว่านี้ ไม่ต้องนั่ง 2 แถวจมหลุมของถนนแล้วลงไปเข็นจนชุดเปื้อนโคลนไปเรียน สภาพแบบนั้น
ถ้าเราเอาเหรียญหรือเหล็กอะไรอะไรก็ได้ที่มันออกซิไดซ์ได้สัก 10 วันสนิมเกาะ มาจากอากาศและฝน เราแลกร่างกาย สุขภาพ ชีวิตเราไปกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่เราภูมิใจนักหนา แต่สภาพชีวิตพวกเราคืออะไร การเมืองมันมีผลกับชาวสมุทรปราการและประชาชนพี่น้องทั่วประเทศไทย
เราสูญเสียอะไรกันไปมากถ้ามองการเมืองเป็นเรื่องไกลตัว เพราะงั้นการเมืองอยู่ในชีวิตเรา การเมืองมันเริ่มตั้งแต่วันที่เราอยู่ในท้องแม่จนอยู่บนเชิงตะกอน
พรรคก้าวไกลมีนโยบายการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ทำไมต้องมี
คุณรู้จักผู้ว่าฯ จังหวัดคุณมั้ย
ไม่รู้จัก
แล้วผู้ว่ากรุงเทพล่ะ?
ชัชชาติ
ทำไมรู้ล่ะ
เพราะเขาแข่งกันหาเสียงตอนเลือกตั้งโครมคราม
ใช่ เพราะเขาผ่านการเลือกตั้ง ไม่ใช่การแต่งตั้ง แล้วทำไมจังหวัดอื่นไม่มีการแข่งขันกัน การมีอยู่ของผู้ว่าฯ จังหวัดอื่นมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาชนเลย ผู้ว่าฯ เขาชื่ออะไร มีหน้าที่อะไร เขาทำอะไร มีอำนาจในการออกแบบผังเมือง มีอำนาจในการกำหนดแผนเศรษฐกิจจังหวัด เขานั่งอยู่ในบอร์ดทุกบอร์ด ไม่ว่าจะประมง ป่าไม้ อื่นๆ ใดๆ ของจังหวัด เขาอยู่หมด
เพราะการมีอยู่หรือจากไปของผู้ว่าฯ (แต่งตั้ง) มันไม่ยึดโยงกับพี่น้องประชาชนเลย ทำให้เขาไม่ได้แคร์ประชาชน โดยที่เขานั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของจังหวัด แต่ทำไม นายก อบจ.ที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่คนที่มีอำนาจ
จะดีหรือไม่ดี จะทำผลงานเป็นที่พอใจหรือไม่ อย่างน้อยประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือก สุดท้ายยังไง 4 ปีได้เลือกใหม่ ทำแย่มากๆ รวมกันถอดถอนได้ ทำให้ประเทศไทยต้องอยู่ภายใต้อำนาจชนชั้นนำทางการเมืองมาตลอดเวลา
นี่คือความสำคัญของคำว่า ประชาชนคือนาย โครงสร้างทางการเมืองต้องเปลี่ยน ไม่ใช่นายคือคนที่นั่งอยู่ที่มหาดไทย คนที่นั่งอยู่กรุงเทพฯ ที่นั่งอยู่ภายใต้นายกรัฐมนตรีอีกต่อไป เพราะนายกฯ ไม่รู้หรอกว่าจังหวัดอื่นนอกเหนือจากกรุงเทพฯ ต้องการแก้ไข พัฒนาอะไร นายกฯ ไม่รู้หรอกค่ะว่าสมุทรปราการต้องดมควันเสียออกจากปล่องโรงงานอุตสาหกรรมทุกวัน
เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เราจะได้มาเฟีย หรือบ้านใหญ่ หรือไม่
เคารพในการเลือกและวิจารณญาณของประชาชนในการเลือกคนที่มาดูแลเขา ถ้าสุดท้ายแล้วเกิดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศได้จริง มาจากการเลือกตั้งของประชาชนไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ
เมื่อประชาชนรู้สึกถึงอำนาจของตนเองมากขึ้น ระหว่างประชาชนกับงบประมาณ สิ่งที่คั่นตรงกลางคือคนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม ถ้าที่ไหนไม่รับใช้ประชาชน สุดท้ายประชาชนจะไม่เลือกเขาเอง ใดๆ ก็ตามเชื่อก่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณที่จะเลือกสิ่งที่เขาคิดว่าดีให้ตัวเขาเอง เคารพประชาชน

ให้เลือก 1 นโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนต่างจังหวัด จะเป็นนโนบายอะไร (เป็นนโยบายของท้องถิ่น)
มันอยู่ในแผนที่สัญญาไว้กับพี่น้องประชาชนไว้ ผึ้งเห็นถึงรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าต้องมาก่อน เป็นความจำเป็นเร่งด่วนสูงสุด พี่น้องประชาชนขาดเม็ดเงินในกระเป๋า ช็อตกันมายาวๆ ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิดจนถึงตอนนี้ โควิดเหมือนฟ้าผ่า หลายคนกลายเป็นคนไร้บ้าน ตกงาน หลุดออกจากระบบการศึกษา เพราะพ่อแม่มีภาวะยากจนกะทันหัน
สิ่งพวกนี้มันเกิดขึ้นโดยที่โครงสร้างรัฐไม่เคยมารองรับเขาเลย คนแก่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างรอความตายไปวันๆ รอลูกหลานจะส่งเงินมาเมื่อไหร่ ลูกหลานจะมาหาเมื่อไหร่ หรือว่าต้องไปหาหมอด้วยเงินสวัสดิการผู้สูงอายุ 600 บาท จะไปโรงพยาบาล ค่าเดินทาง ค่ายาก็หมดแล้ว จะเหลืออะไรให้ใช้กินอยู่ในแต่ละเดือน ไม่มีใครอยู่ได้ จะกินต้นไม้ที่ปลูกไว้ก็ไม่ได้เพราะน้ำก็เสียอีก สภาพแวดล้อมมันเสียหาย โครงสร้างมันทำลายชีวิตพี่น้องเราเป็นอย่างมาก มันเลยเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องทำรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าให้ได้
อีกอย่างคือสมุทรปราการเป็นเมืองโบราณ (หยุดพูดเพราะโรงงานปล่อยควันสีดำอีกครั้งพร้อมกลิ่นสารเคมีแสบจมูก ทั้งคุณผึ้งและผู้เขียนชะงักกับควันไปชั่วขณะ มันเหม็นและแสบจมูกมาก และคุยกันต่อท่ามกลางกลิ่นควัน
มวลบางอย่างตีหน้าเข้ามา ภาพเหมือน Silent hills นี่ไม่ได้เตี๊ยมนะ เรากำลังประสบกับมลพิษแบบชาวสมุทรปราการเจอทุกวัน ก็นับเป็นการลงพื้นที่แบบเน้นสมจริงละกันเนาะ (ขำแห้งใส่)

จริงๆ เขตของผึ้งเป็นที่มีชุมชนอาศัยอยู่มานาน และมีการขยายตัวของชุมชนมานานแล้ว ในแง่ของเมืองวัฒนธรรม ภาษาเล่นๆ คือปากน้ำฝั่งน้ำเค็ม เพราะติดแม่น้ำ เป็นเมืองพานิชยกรรม การอยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนสูงมาก พอขยับขยายก็ขยายออกมาข้างนอก อย่างเขตบางพลีก็เพิ่งเกิดการขยายตัวของชุมชนไปได้ไม่นาน แต่ก่อนเป็นที่เลี้ยงปลา กุ้ง แต่เขต 1 เป็นพื้นที่ชุมชนเดิมที่ขยายตัวออกไปข้างนอกเลยเป็นพื้นที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม
และตามมาด้วยความหลากหลายของอุตสาหกรรม และความหลากหลายของปัญหาก็จะเยอะเช่นกัน มันเลยต้องเร่งด่วนและจำเป็นต้องมีรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า ช่วยเหลือพี่น้องให้ได้ไวที่สุด คุณภาพชีวิตมนุษย์เป็นประเด็นหลักที่ผึ้งจะทำงานทางการเมือง เป็นเจตจำนงหลักที่ต้องทำให้คุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้นให้ได้ ดีตั้งแต่เกิดจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เรามีสวัสดิการรองรับทุกช่วงวัย ต้องทำให้ได้ เพื่อขยับไปสู่การแก้ปัญหาเรื่องตามความเร่งด่วนต่อๆ ไป เชื่อมโยงไปสู่ปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แก้ปัญหาและยกระดับชีวิตมนุษย์ภายใต้รัฐบาลก้าวไกล นี่คือสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จให้ได้
คุณคิดว่าควบคุมค่าใช้จ่ายพื้นฐานอย่างค่าไฟ ทำไปคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ได้หรือไม่
ทำได้ การที่พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ เรื่องค่าใช้จ่ายและความมั่นคง คือการมีสวัสดิการ คือการเพิ่มรายได้ในกระเป๋า พร้อมกันกับลดรายจ่ายของคนที่แบกภาระค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว แต่ถ้ายังค่าไฟแพงอยู่อย่างทุกวันนี้ ถ้ายังปล่อยลอยให้โรงไฟฟ้าผุดเป็นดอกเห็ด ได้สร้างประโยชน์ให้ประชาชนหรือไม่ ก็ไม่รู้ แต่ผุดขึ้นมาไว้ก่อน แล้วเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มอุปถัมภ์เดิมในไทย มันจะไม่มีทางทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้นได้ เดี๋ยวก็จะไปเข้าลูปเดิมๆ ขึ้นค่าแรง แล้วขึ้นราคาค่าใช้จ่ายพี่น้องประชาชนไปด้วย
เราจำเป็นต้องดูว่าอะไรที่เป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ประชาชนจำต้องได้รับอย่างเท่าเทียมเสมอภาค ไม่จำเป็นที่รัฐต้องไปหากำไรจากสิ่งเหล่านั้น
ค่าไฟเนี่ยเราต้องการกำไรแค่ไหนกันที่จะทำให้ประชาชนคนไทยมีไฟใช้ทุกครัวเรือน มันไม่จำเป็นเพราะรัฐสามารถรับผิดชอบได้
รัฐต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคให้พี่น้องประชาชนสิ ค่ามือถือ มันจำเป็นต้องแพงขนาดนี้เลยเหรอ ถ้าเรามองว่ามือถือคือปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้เข้าถึงการสื่อสาร เข้าถึงการทำงาน เรามองมันเป็นปัจจัยพื้นฐานไปแล้ว มันจำเป็นต้องราคาแพงขนาดนี้เลยเหรอ เราจะทำยังไงให้คนเข้าถึงสิ่งเหล่านี้
เพราะงั้นอะไรที่เป็นสาธารณูปโภคต้องลดค่าใช้จ่ายพวกนี้ลง ทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายเหล่านี้ถูกลง ลดภาระพี่น้องประชาชน
ขอขอบคุณทีมนโยบายพรรคที่รับทุกปัญหาของทุกระดับและออกแบบนโยบายมาอย่างประณีตเพื่อให้ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้นได้ เพราะเราเห็นภาพของสังคมใหม่ที่มันดูแลชีวิตประชาชนได้ และเราเห็นความหวังในชีวิตเมื่อเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยกันทุกชนชั้น เราจะมีความหวังและความฝันได้
นี่คือสิ่งที่ทำให้ผึ้งทุ่มเทกับพรรค เพราะเรามองเห็นหนทางเพื่อพี่น้องประชาชน ที่จะพากันสร้างการเปลี่ยนแปลง ไปสู่การมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ดีขึ้นกว่านี้ให้ได้
.
ขอคนละ ‘1 ชื่อ’ ให้เกิน ‘5 หมื่น’ ตามกฎหมายกำหนด ชวนผู้มี ‘สิทธิ์เลือกตั้ง’ ลงชื่อในร่างเลือกตั้งผู้ว่าทั่วประเทศ ที่ https://thevotersthai.com/support-us-signature/ เมื่อกดลิงค์เข้าไป กรุณากรอกให้ครบทั้ง 5 อย่าง ชื่อ-นามสกุล / เลขประจำตัวประชาชน / อีเมล / ติ๊กข้าพเจ้าขอรับรองความสมัครใจ / เซ็นชื่อ / เเละกดส่งชื่อ / ด้านล่างจะมีสรุปสาระสำคัญของร่าง และลิงค์ร่างฉบับเต็ม